กรุงเทพฯ 25 ธ.ค. – กอช.จัดใหญ่ส่งท้ายปี แจกหนัก “ทองคำ” 10 รางวัล ชู “สลากเกษียณ” ปลุกคนไทยรักการออม
นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นประธานในงานจับรางวัล “ยิ่งออมมาก รับสิทธิเพิ่ม ลุ้นรับทองจาก กอช.” เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้ประชาชนทุกคน รักการออม และสามารถวางแผนการเงิน สำหรับชีวิตหลังเกษียณได้อย่างมั่นคง รางวัลที่ 1 เป็นทองคำแท่ง หนัก 2 บาท จำนวน 5 รางวัล
นายวโรทัย กล่าวว่า การออมเงินเพื่อการเกษียณซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญของรัฐบาลในการวางรากฐานที่มั่นคง ปัจจุบันผู้สูงอายุจำนวนมาก มีรายได้หลักมาจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และประชาชนอีกจำนวนมากไม่มีเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณ รัฐบาลจึงได้สนับสนุนการออมผ่าน กอช.หวังช่วยให้แรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระกว่า 21 ล้านคน รวมถึงนักเรียน นักศึกษา อายุตั้งแต่ 15-60 ปี ได้มีโอกาสออมเงินและได้รับการสมทบจากรัฐบาล ให้มีบำนาญเหมือนข้าราชการได้เช่นกัน
รัฐบาลมุ่งมั่นออกแบบนวัตกรรมการออมใหม่ผ่าน “หวยเกษียณ” หลัง ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 เห็นชอบหลักการร่างแก้ไข พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่…) เพื่อให้ กอช. ออกรางวัล “หวยเกษียณ” ให้กับสมาชิก กอช. และอาชีพอิสระ แรงงานนอกระบบ และผู้ประกันตน มาตรา 40 รวมถึงผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป สามารถซื้อสลากได้ แต่ต้องออมเงินไว้ 10 ปี ถึงจะถอนเงินจากการซื้อสลากทั้งหมดออกมาได้ สำหรับสลากจะจำหน่ายใบละ 50 บาท ในทุกสัปดาห์ ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้รับเงินทันทีผ่าน PromptPay สำหรับรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ล้านบาท 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 จำนวน 1,000 บาท 10,000 รางวัล ทั้งนี้ทุกการซื้อสลากถือเป็นโอกาสลุ้นรางวัล
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า กอช.ต้องการส่งเสริมการออมในระยะยาว ผ่านสมาชิก กอช. โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบ ที่มีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี สามารถออมเงินได้ตามความสมัครใจ ขั้นต่ำตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 30,000 บาทต่อปี และรัฐสมทบสูงสุด 100% แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี และไม่จำเป็นต้องออมเป็นประจำเท่ากันทุกเดือน ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น กอช. หรือทางไลน์ แอด กอช. @nsf.th เพื่อตรวจสอบสิทธิและสมัครสมาชิก พร้อมกับระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และหมายเลขโทรศัพท์มือถือของตนเอง หรือสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่สายด่วนเงินออม 02-049-9000. -515 -สำนักข่าวไทย