กมธ.การท่องเที่ยวฯ จี้แก้กฎหมายเพิ่มโทษปืน-ฟื้นประหาร

รัฐสภา 26 ธ.ค.-กมธ.การท่องเที่ยวฯ จี้แก้กฎหมายเพิ่มโทษปืน-ฟื้นประหาร สังคมต้องปลอดภัย

นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะ กมธ.การท่องเที่ยว ได้ออกมาแถลงเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย เป็นผลจากการใช้อาวุธปืนโดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ในขณะมึนเมา


นายศาสตรา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสะเทือนใจของคนไทยทั้งประเทศ เนื่องจากตนเป็น สส.ในเขตพื้นที่หาดใหญ่ ตนจึงอยากเรียกร้องใน 3 ประเด็นหลัก คือ การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น ตนได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาในกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีอาญามาตรา 288 ซึ่งกำหนดโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ที่ฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ โทษประหารชีวิตแทบไม่ถูกนำมาใช้จริงในสังคมไทย ผู้กระทำความผิดที่รับสารภาพมักได้รับโทษจำคุกเพียง 10 ปี และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทำให้เกิดคำถามว่า ครอบครัวของเหยื่อที่สูญเสียไปจะได้รับความยุติธรรมเพียงพอหรือไม่ ทั้งนี้หากกฎหมายยังอ่อนแอ เหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ก็อาจเกิดขึ้นซ้ำอีก และเรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการลงโทษ

นายศาสตรา กล่าวว่าการเยียวยาผู้เสียหายอย่างเร่งด่วน ในเหตุการณ์นี้ ผู้เสียชีวิตบางรายมีลูกที่ต้องดูแล อีกทั้งเจ้าของร้านข้าวต้มเองก็ถูกยิงจนสูญเสียการมองเห็น ตนจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการเยียวยาผู้เสียหายและครอบครัวโดยเร็วที่สุด


และการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการพกพาอาวุธปืน ตนได้กล่าวถึงปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพกพาอาวุธปืน โดยปัจจุบันบทลงโทษสำหรับการพกพาอาวุธปืนนอกเวลาปฏิบัติหน้าที่ มีเพียงการปรับเงินไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความเกรงกลัวในสังคม ตนขอเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายให้มีบทลงโทษที่รุนแรงและชัดเจนขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดพกพาอาวุธในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม อันอาจนำไปสู่เหตุการณ์สูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น

นายศาสตรา ย้ำถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและความสำคัญของการปรับปรุงกฎหมายรวมถึงการบังคับใช้โทษอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่องการควบคุมอาวุธปืนและโทษประหารชีวิต เพื่อให้สังคมไทยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และไม่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียในลักษณะนี้อีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่ตนได้ออกมาแถลงนี้ หวังว่าจะมีการแก้ไขกฏหมายและผลักดันให้สังคมเกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่