กรุงเทพฯ 31 ต.ค. – คลังเร่งเข็น “หวยเกษียณ” เสนอ ครม.เดือน ธ.ค.นี้ ปรับรูปแบบจับรางวัล เปิดทางให้ผู้อายุเกิน 60 ปี ซื้อรางวัล เก็บเงิน 10 ปี เบิกคืนได้
ดร.เผ่าภูมิ โจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างร่วมงาน วันออมแห่งชาติประจำปี 2567 ว่า รัฐบาลต้องการรณรงค์ให้ประชาชนออมเงินเพื่อการเกษียณมากขึ้น กระทรวงการคลังจึงได้พัฒนานวัตกรรมการออมให้กับคนไทย เพื่อจูงใจและกระตุ้นให้เกิดการออมระยะยาว จึงได้ออก “หวยเกษียณ” หรือสลากขูดดิจิทัล นับเป็นการออมระยะยาวรูปแบบใหม่ โดยมีเงินรางวัลจูงใจตามนิสัยของคนไทย จึงได้ทั้งเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง และเก็บออมเงินในระยะยาว
ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า สลากเกษียณฯ เป็น “สลากขูดดิจิทัล” จำหน่ายใบละ 50 บาท ชื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ออกรางวัลทุกวันศุกร์ แบ่งเป็นรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท 10,000 รางวัล ผู้ถูกรางวัลจะได้รับเงินภายในวันถัดไปและหากรางวัลออกไม่ครบ จะทบไปงวดถัดไป ส่วนผู้ที่มีสิทธิซื้อ ได้แก่ สมาชิก กอช., ผู้ประกันตน มาตรา 40 และกลุ่มแรงงานนอกระบบ ที่มีอยู่กว่า 20 ล้านคนทั่วประเทศ
สำหรับการซื้อหวยเกษียณได้ปรับปรุงการแบ่งรางวัลออกเป็น 4 รูปแบบ ประกอบด้วย ส่วนที่ 1.รางวัลที่ 1 จัดทำให้เป็นหวยขูดดิจิทัลกำหนดให้เป็นวงกลม 4 วง กำหนดให้เป็นชื่อ จังหวัดทั่วประเทศ และแบ่งเป็นเฉดสี เช่น จับลูกบอล ชื่อ จ.เชียงใหม่ สีเขียว เป็นผู้ถูก รางวัลที่ 1 ส่วนที่ 2. กำหนดให้เป็นชื่อ อำเภอทั่วประเทศ และแบ่งเป็นเฉดสี เช่น จับลูกบอล ชื่อ อ.บางพลี สี แดง จะเป็นผู้ถูก รางวัลที่ 2 ส่วนที่ 3.รางวัลที่ 3 เป็นรางวัลสมทบหากไม่มีผู้ถูกรางวัล จะนำมาสมทบในงวดล่าสุด และส่วนที่ 4. กำหนดเป็นรางวัลพิเศษ เพื่อแจกสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น บัตรเติมน้ำมัน กาแฟ โรงแรมที่พัก หรือ เงินอุดหนุนค่าไฟฟ้า ประปา
ส่วนการแก้ไข พ.ร.บ. กอช. เบื้องต้นได้ปรับปรุงเงื่อนไข การขยายอายุผู้มีสิทธิ์ชื่อสลากเกษียณฯ จากเดิมอายุ 15-60 ปี เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี สามารถซื้อได้ แต่ต้องถือบัญชีซื้อสลากเกษียณฯ ไว้ต่อเนื่อง 10 ปี ถึงจะถอนเงินออกมาได้ หากเสียชีวิตเงินจะตกเป็นมรดกให้กับทายาทหรือผู้ได้รับผลประโยชน์ที่ระบุไว้ ขณะนี้เสนอบรรจุวาระไปยังสำนักเลขาธิการ ครม.แล้ว คาดว่าเสนอ ครม.พิจารณาได้ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นจะเดินไปตามกระบวนการของรัฐสภา คาดว่า เริ่มจำหน่ายสลากฯ ได้ภายในไตรมาส 1 ของปี 2568
“หากสมาชิกเข้าโครงการสลากเกษียณฯ และส่งเงินออมตามช่องทางปกติของ กอช. ร่วมด้วย ตั้งแต่อายุ 15-60 ปี (45 ปี) สำหรับช่องทางปกติ ออมสูงสุด 30,000 บาทต่อปี และรัฐสมทบสูงสด 1,800 บาทต่อปี สมมติฐานผลตอบแทนการลงทุน ร้อยละ 2.5 ต่อปี จะมียอดเงินในบัญชีรวมกว่า 2.6 ล้านบาท หากออมร่วมกับซื้อ “สลากเกษียณ” โดยซื้อสลากทุกเดือน ๆ ละ 3,000 บาท จะได้รับเงินคืนประมาณ 1.6 ล้านบาท รวมเงินที่ได้รับ นอกเหนือสิทธิประโยชน์ รวมทั้งสิ้นกว่า 4.2 ล้านบาท และจะได้รับเงินบำนาญรายเดือนไปจนตลอดชีวิตจากการออมตามช่องทางปกติ ทำให้ประชาชนมีความมั่นคงเมื่อเกษียณอายุ” ดร.เผ่าภูมิ กล่าว. – 515-สำนักข่าวไทย