“เผ่าภูมิ” ยันไตรมาส 4 ได้ซื้อแน่ “หวยเกษียณ” งวดแรก

รัฐสภา 23 ก.ค.-สภาฯ ถกหวยเกษียณ “เผ่าภูมิ” ยัน ไตรมาส 4 ปีนี้ได้ซื้องวดแรกแน่ ใบละ 50 บาท ชี้ทำภายใต้หลัก “เงินไม่หายกลายเป็นเงินออม เปลี่ยนวันศุกร์เป็นความสุขของคนออม” เปิดโอกาสคนอายุ 15 ปีขึ้นไป ได้เงินคืนทุกบาทตอน 60 ปี ใครถูกรางวัลที่ 1 คว้า 1 ล้านบาท


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การออมแห่งชาติ(ฉบับที่..)พ.ศ… หวยเกษียณ หรือสลาก กอช. ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญ พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งเป็นการพิจารณาในวาระ 2 โดยพิจารณาเรียงมาตรา

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ในฐานะประธานกมธ.ฯ ชี้แจงว่า กมธ.ได้พิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุด โดยมีการแก้ไขใน 6 ประเด็นคือ 1.เรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย 60 วัน เพื่อพัฒนาเกี่ยวกับตัวความพร้อมของตัวระบบ และความพร้อมของ แอปพลิเคชั่น กอช.ในการเปิดใช้งาน 2.แก้ไขเรื่องเงินรางวัล ที่สามารถระบุไว้ในกฎกระทรวงระดับรองได้เพื่อง่ายต่อการแก้ไข และเพื่อเป็นความยืดหยุ่นของการดำเนินการ เพื่อทำให้โครงการหวงเกษียณมีความยืดหยุ่นและความเหมาะสมและประสิทธิภาพต่อระบบเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุดและสอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชนมากที่สุด 3. แก้ไขเรื่องการเปิดโอกาสให้มีการถอนเงินก่อนอายุ 60ปี มีการระบุไว้ในกฎกระทรวงเพื่อที่จะสามารถแก้ไขได้ในอนาคต อาจจะมีการขีดเส้นว่ามีเงินฝากเท่านี้ สามารถถอนออกมาได้ในอนาคต เพื่อประโยชน์สูงสุดของโครงการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด 4 .มีการแก้ไขเรื่องเกี่ยวกับการเปิดโอกาศให้ผู้ทุพพลภาพสามารถถอนเงินได้ก่อนอายุ 60ปี เป็นจำนวน 3 ครั้งจากเดิม 1 ครั้ง 5. แก้ไขให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ กอช. ในการคืนเงินต้นทุกบาทให้กับพี่น้องประชาชนตอนอายุ 60ปี และ6.แก้ไขประเด็นปลีกย่อยต่างๆ


นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่าเรื่องของหวงเกษียณหรือสลาก กอช.เป็นนวัตกรรมการออมใหม่ที่สนับสนุนให้พี่น้องประชาชนเกิดการออมโดยการผูกเรื่องความชอบของพี่น้องคนไทย ที่ชอบเสี่ยงดวง ลุ้นโชค มาแก้ไขปัยหาขาดการออมของประเทศไทย ภายใต้หลักคิดว่า “ซื้อหวยเงินไม่หาย กลายเป็นเงินออม” โดยเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป และมีสัณชาติไทยทุกกลุ่ม ทั้งข้าราชการ ทหาร ตรำรวจ แรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ พนักงานออฟฟิต ซื้อได้

“สามารถซื้อสลากได้ใบละ 50 บาท รางวัลที่ 1 จำนวน 1 ล้านบาท 5 รางวัล ,รางวัลที่2 จำนวน 1 พันบาท 1 หมื่นรางวัล วันศุกร์ เวลา 17,00 น. จะมีการประกาศรางวัล ถ้าท่านถูกรางวัล รางวัลจะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพลย์ทันที เอาไปใช้ได้เลย ไม่ต้องเก็บออมต่อ แต่เงินที่ซื้อทุกบาททุกสตางค์ไม่ว่าท่านจะถูกรางวัลหรือไม่ถูกรางวัล 50 บาทที่ซื้อสลากนั้น จะ เก็บเข้าไปสูงเงินออมในบัญชีส่วนตัวของท่านโดยอัตโนมัติเงินออมก็จะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ และรัฐบาลคืนเงินทุกบาททุกสตางค์ที่พี่น้องประชาชนซื้อหวยเกษียณตลอดชีวิตตอนอายุ 60 ปี เพราะฉะนั้นตอน 60 ปีพี่น้องประชาชนจะมีเงินออมที่เคยเก็บสะสมมาตลอดชีวิตเอาไปใช้ในยามเกษียณเพื่อการดำรงชีพเพื่อความมั่นคงในการดำเนินชีวิต” นายเผ่าภูมิ กล่าว

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่มีอายุเกิน 60ปี ก็สามารถซื้อได้ แต่ต้องเก็บไว้ 5 ปี เช่นอายุ 62 ปี ซื้อได้แล้วเก็บสะสมไว้ 5 ปี พออายุ 67 ปี ก็ได้รับเงินคืนทุกบาททุกสตางค์ทันที หากเสียชีวิต เงินทั้งหมดจะตกอยู่กับทายาทหรือคนที่ท่านระบุไว้ตอนสมัครเพราะฉะนั้นเงินทุกบาททุกสตางค์รัฐบาลไม่เก็บไว้แต่คืนให้กับทายาทหรือคนที่ท่านระบุชื่อตามกฏหมายทันที


“ฉะนั้นโครงการนี้ประชาชนจะได้ 3 เด้ง คือ 1.ได้ลุ้นทุกวันศุกร์ตอน 5โมงเย็นถูกล้านได้ล้านโอนทันที 2.ได้เก็บออม จะมีเงินล้าน ตอนอายุ 60 ปีถ้ามีการสะสมอย่างต่อเนื่อง และ3.ได้ผลตอบแทนการลงทุน ที่กอช.นำไปลงทุน เพื่อที่จะเป็นผลประโยชน์เพื่อเติมให้กับพี่น้องประชาชน นี่คือโครงการที่รัฐบาลนำเสนอโดยคณะมนตรี(ครม.)ปรับปรุงแก้ไขโดยกรรมาธิการฯเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน ภายใต้หลักการซื้อหวยเงินไม่หายกลายเป็นเงินออม และเปลี่ยนวันศุกร์เป็นความสุขของคนออม” นายเผ่าภูมิ กล่าว

โดยสมาชิกอภิปรายในมาตรา 2 ถึงผลบังคับใช้ของกฎหมาย 60 วัน ต้องการให้กลับไปใช้ 30 วันเหมือนเดิม เพราะขั้นตอนกว่าจะออกกฎหมายก็ใช้เวลานานอยู่แล้ว มีการแก้ไขกฎหมายรองรับหรือไม่ และให้ยื่นยันว่าหากให้ระยะเวลา 60 วัน กระทรวงการคลังทำทันหรือไม่

นายเผ่าภูมิ ชี้แจงว่าการเตรียมการของกระทรวงการคลัง และกอช.มีกระบวนการในการที่จะต้องแก้ไขกฎหมายระดับรอง เรื่องกฎกระทรวงต่างๆ จะมีการดำเนินการ ซึ่งปัจุจบันมีการเตรียมการดำเนินารและจะต้องเสนอครม.ต่อไป ซึ่งทำให้กมธ.ฯและผู้ที่เกี่ยวข้องมองว่า 60 วันเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่ง 60 วันทำให้เราเห็นว่าหวยเกษียณจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้ จะเปิดให้มีการซื้อสลากในงวดแรกภายในไตรมาส 4 ปีนี้.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย