อุดรธานี 17 พ.ย.- “พิธา-ชัยธวัช” เดินสายหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดร ต่อเนื่อง ย้ำความสำเร็จงานท้องถิ่น ใครทำไม่ได้ ปชน. พร้อมทำให้ดู ชี้ความต่าง “คณิศร” พร้อมสู้เพื่อครอบครัวชาวอุดรธานีทุกคน ไม่ใช่ครอบครัวคนอื่น
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 พรรคประชาชนเปิดเวทีปราศรัยเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้าได้เปิดเวทีที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และช่วงเย็นที่ อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี โดยมีแกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงร่วมปราศรัยให้กับ “คณิศร ขุริรัง” ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี เบอร์ 1 ของพรรคประชาชนอย่างคับคั่ง
สำหรับเวทีในช่วงเช้าที่ผ่านมา แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้ผลัดกันขึ้นปราศรัยที่เวทีกลางตลาดนัด ต.เพ็ญ อ.เพ็ญ ท่ามกลางประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก โดยชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้กล่าวกับประชาชนว่า พรรคประชาชนมีความมั่นใจเพราะมีประสบการณ์เรียนรู้การเมืองท้องถิ่นมาแล้ว แม้จะยังไม่มีโอกาสได้บริหาร อบจ. แต่ก็มีโอกาสบริหารเทศบาลและ อบต. ได้ริเริ่มนโยบายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำประปาดื่มได้ การแพทย์ทางไกล การบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง แปรรายได้จากขยะเป็นสวัสดิการ การยกระดับคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และอีกหลายนโยบายที่ทำสำเร็จ
ดังนั้น พรรคประชาชนจึงมีทั้งความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานท้องถิ่น มีประสบการณ์ และพร้อมทำงานทันที อะไรที่นักการเมืองท้องถิ่นในอดีตไม่พร้อมทำ เราจะทำ อะไรที่เขาบอกว่าทำไม่ได้ ต้องใช้งบประมาณมาก งบประมาณไม่พอ เราจะทำให้ดู แค่ไม่ทุจริตก็มีเงินเหลือแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องหาเงินทอน ต้นทุนที่เรามีอย่างเดียวคือความไว้วางใจของประชาชน การเมืองแบบอนาคตใหม่ ก้าวไกล ประชาชน คือการเมืองที่อยู่ได้เพราะประชาชน เราไม่ต้องเกรงใจใครทั้งสิ้น
ชัยธวัช กล่าวต่อไปว่า ช่วงที่ผ่านมาทักษิณ ชินวัตร มาหาเสียงที่อุดรธานี โดยขอว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อย่าทำให้ตัวเองเสียหน้า แต่สำหรับพรรคประชาชนแล้วไม่ว่าจะเป็นการเมืองระดับชาติหรือท้องถิ่น ทุกการเลือกตั้งมีความหมายเพราะเป็นการใช้เสียงของประชาชนในการตัดสินอนาคตของบ้านเมือง เพื่อประโยชน์และชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน การเลือกตั้ง 24 พฤศจิกายนนี้จึงไม่ใช่การเลือกตั้งเพื่อทำให้ใครเสียหน้าหรือไม่เสียหน้า แต่เป็นการเลือกตั้งเพื่อผลประโยชน์ของชาวอุดรธานีทุกคน
ในส่วนของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ระบุว่าที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปต่างประเทศหลายแห่ง ได้เจอพี่น้องแรงงานอีสานในทุกที่ที่ไป ต้องจากบ้านจากเมืองทั้งที่ไม่ได้เต็มใจ อยากกลับบ้าน ต้องเสี่ยงต่อสู้ ค่าแรงมากแต่ก็ต้องใช้ชีวิตอย่างเหนื่อยยาก นี่คือหนึ่งในเรื่องที่คณิศรมีเป้าหมายในการบริหาร อบจ.อุดรธานี ภายใน 4-8 ปี อยากให้อุดรธานีเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโอกาสทางเศรษฐกิจ อีกไม่นานแรงงานต่างประเทศที่อยากกลับมาอยู่บ้านที่อุดรธานีต้องได้กลับบ้าน คณิศรจะใช้งบประมาณปีละ 1,200 ล้านบาทเพื่อครอบครัวของชาวอุดรธานีทุกคน ทำให้เศรษฐกิจกลับมาแข็งแรง การเดินทางดี มีโรงเรียนที่ดี มีระบบสาธารณสุขที่ดี เอาแรงงานชั้นสูงจากอุดรที่ไปอยู่ต่างประเทศกลับมาพัฒนาอุดรธานี พัฒนาอีสาน และพัฒนาประเทศไทย
เส้นแบ่งการเลือกตั้งครั้งนี้คือการเลือกตั้งของสองพรรค ตนอยากเชิญชวนทุกคนให้ลองถามตัวเองว่าพรรคใด ผู้สมัครคนใดที่พร้อมสู้เพื่อครอบครัวของคนอุดรธานีมากกว่า ใครพร้อมสู้เพื่อโอกาสทางเศรษฐกิจของชาวอุดรธานีมากกว่า ใครเข้าใจปัญหาคนป่วยที่ไม่มีเตียง ไม่มีหมอ และความรุนแรงของโรคร้ายผู้สูงอายุมากกว่า จาก 20 อำเภอ 160 กว่าตำบลในอุดรธานี คณิศรไปมาครบแล้ว นี่คือความต่างของผู้สมัคร คณิศรมีประสบการณ์เคยเป็นรองนายก อบจ. เคยเป็นประธานสภาทนายความ มีประสบการณ์และจะต่อสู้ทุกวันเพื่อครอบครัวของพวกท่าน ไม่ใช่เพื่อครอบครัวของคนอื่นอย่างแน่นอน
พิธากล่าวต่อไปว่า พรรคประชาชนสืบต่ออุดมการณ์มาจากอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล เปรียบเสมือนเป็นผ้าขาวม้า เรียบง่าย ใช้คล่อง สารพัดประโยชน์ มีความหลากหลายสวยงาม สำหรับเราการเมืองคือเรื่องของทุกคน คือเรื่องของความเป็นไปได้ ทำทุกอย่างเต็มที่ จะแพ้หรือชนะก็เป็นแบบนี้เหมือนเดิม คิดแบบนี้มีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีแพ้ เราจะแพ้เมื่อเราหยุดเดิน ตราบใดที่เราไม่หยุดเดิน เราชนะแน่นอน.-312-สำนักข่าวไทย