กรุงเทพฯ 6 พ.ย. – ทนายบอสพอล เผยดีเอสไอยังไม่ได้ประสานจะแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่กับเหล่าบอส เดินหน้าเตรียมเอกสารหลักฐานให้พร้อม ขณะบอสพอล ไม่ได้มีความกังวลใด
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนภายหลังเข้าสอบปากคำนานเกือบ 5 ชั่วโมง ว่า สำหรับการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่วันนี้มี 2 เรื่อง คือ นักร้องเรียนสาว เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบปากคำบอสพอล และนายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือ บอสวิน โดยตนได้แนะนำลูกความให้การไปตามความจริง แต่ตนไม่ได้เข้าไปอยู่ในห้องสอบปากคำด้วย เพราะมีการสอบปากคำนายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือโค้ชแล็ป กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานมูลนิธิชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม อ้างว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นตำรวจกองปราบปรามเรียกรับเงิน 9 ล้านบาท จากโค้ชแล็ปด้วย ตนจึงไม่ทราบว่าบอสพอลให้การอย่างไรบ้าง แต่ได้อ่านคำให้การของโค้ชแล็ปเพราะต้องลงลายมือชื่อในเอกสาร พร้อมบอกด้วยว่าหลังจากนี้จะมีการโอนคดีนักร้องเรียนสาวให้ทนายอีกทีมหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการต่อเพราะตนเหนื่อย และอาจจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนน้อยลงเพราะที่ผ่านมางานที่ตนรับผิดชอบไม่มีความคืบหน้าเลย โดยหลังจากนี้ตนจะเดินหน้าเตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ในกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าแจ้งข้อหาเพิ่ม จะได้มีเอกสารพร้อม
เบื้องต้น นายวิฑูรย์ บอกว่าดีเอสไอยังไม่ได้มีการประสานมายังตนว่าจะเข้าแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกง หรือแชร์ลูกโซ่ กับลูกความเพิ่มเมื่อใด โดยตอนนี้บอสพอลทราบแล้วว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มแต่ไม่ได้มีความกังวลใด ๆ ซึ่งตนก็ได้รายงานให้บอสพอลทราบว่า ตนเตรียมพยานเข้าให้ปากคำแล้วจำนวน 2,400 ราย สามารถยืนยันตัวตนได้แล้ว 1,539 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแชร์ลูกโซ่ 1 ราย ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำคดีแชร์ลูกโซ่มาแล้วกว่า 10 ปี ส่วนพยานที่เป็นโรงงานผู้ผลิตสินค้าจะยื่นคำให้การเป็นเอกสารแทน
สำหรับพยานหลักฐานในการต่อสู้คดีแชร์ลูกโซ่ ขณะนี้มีความพร้อมในระดับหนึ่ง แต่หากดีเอสไอจะดำเนินการสอบพรุ่งนี้ ตนก็จะต้องดำเนินการยื่นเอกสารตามไปในภายหลัง รวมทั้งต้องดำเนินการยืนยันตัวตนพยานให้ครบตามจำนวน 2,400 คนก่อน ส่วนพยานรายใหม่นอกเหนือจากนี้ตนจะต้องเดินสายรวบรวมอีกครั้ง โดยจะมีการจัดกลุ่มพยานในการเข้าให้ปากคำตามระดับการเป็นตัวแทนขาย และประเภทการขาย เช่น ขายปลีก-ส่ง ขายออนไลน์ เป็นต้น
ส่วนเหตุผลที่ดีเอสไอยังไม่เริ่มสอบปากคำพยานนั้น เป็นเพราะทางดีเอสไอให้ตนทำบัญชีรายชื่อพยานก่อน ซึ่งตนเชื่อว่าปัญหาของดีเอสไอน่าจะเกิดจากการที่รับสำนวนต่อมาจากตำรวจแล้วยังอ่านสำนวนได้ไม่ครบ และอาจจะยังไม่ได้ตั้งประเด็นในการสอบปากคำพยาน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าดีเอสไอจะเข้าแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มต่อบอสดิไอคอนในวันศุกร์นี้ (8 พ.ย.) ตนยังไม่ทราบ พร้อมยืนยันว่าหากเป็นจริงตามกระแสข่าว ต้องมีการประสานมายังตนก่อนซึ่งตนก็พร้อม แต่ยอมรับว่ายังไม่พร้อมหากจะมีการสอบปากคำเลย
ส่วนกรณีที่ทางดีเอสไอบอกว่าจะมีการพิจารณาถึงความจำเป็นก่อนว่าจะสอบพยานครบทุกปากหรือไม่นั้น ตนมองว่าจำเป็นต้องสอบทุกคน เพราะพยานทุกคนก็ยืนยันที่จะเข้าให้ปากคำ และหากแพ้คดีผู้ต้องหาเองก็จะต้องเสียอิสระภาพ จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาด้วย ยืนยันว่าหากดีเอสไอสอบไม่ครบตนก็จะต้องร้องขอความเป็นธรรมและอัยการต้องตีสำนวนคดีกลับมา ซึ่งหากดีเอสไอเกรงว่าการสอบพยานทั้งหมดจะทำให้คดีล่าช้าและไม่ทันกรอบระยะเวลาการฝากขังก็สามารถกระจายไปยังศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 1-10 ให้ช่วยกันสอบได้ แต่ตนมั่นใจว่าดีเอสไอจะดำเนินการอย่างเป็นธรรมและเป็นกลาง ยืนยันว่าหากดีเอสไอจะตัดจำนวนพยานในการสอบปากคำตนไม่ยอม. -420-สำนักข่าวไทย