ไทย-เยอรมนี MOU ความร่วมมือด้านพลังงาน คมนาคม และสภาพภูมิอากาศ

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – 8 หน่วยงานลงนาม MOU เพื่อดำเนินการร่วมกันด้านพลังงาน คมนาคม และสภาพภูมิอากาศ ภายใต้โครงการ TGC EMC โดยเป็นความร่วมมือระหว่างไทยกับเยอรมนี เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนใน พ.ศ.2593 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ใน พ.ศ. 2608


หน่วยงานที่ร่วมดำเนินโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมัน ด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TGC EMC) มี 8 หน่วยงานซึ่งร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการความร่วมมือไทย-เยอรมัน ด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TGC EMC) เพื่อร่วมกันสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือนี้มุ่งที่จะผนึกกำลังทุกหน่วยงานเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนใน พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ใน พ.ศ. 2608 (ค.ศ. 2065)

โครงการ TGC EMC ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากแผนงานปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับสากล (IKI) ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMWK) โดยมีองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ร่วมขับเคลื่อนโครงการกับหน่วยงานดำเนินโครงการภาครัฐของประเทศไทย 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) สํานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) และ กรุงเทพมหานคร (กทม.)


ทั้งนี้ การมีหน่วยงานภาคีจากหลายภาคส่วนทำให้ TGC EMC โดดเด่นด้าน “Sector Coupling” โดยแนวทางนี้ไม่ได้เน้นที่ภาคส่วนใดโดยเฉพาะ แต่มองความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศแบบองค์รวมซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือหลายชั้นในลักษณะข้ามภาคส่วนในการแก้ไข

แนวคิด “Sector Coupling” หรือการบูรณาการภาคส่วนสำคัญเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน คือหัวใจสำคัญของการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือและการประชุมเชิงปฏิบัติการที่จัดขึ้น โดยหน่วยงานภาคีไม่เพียงแต่ให้คำมั่นที่จะร่วมมือกันเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันแบบข้ามภาคส่วนอีกด้วย เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือที่ออกแบบสำหรับขับเคลื่อนเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของไทยให้ก้าวไปข้างหน้า

หลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากหลายภาคส่วนได้ศึกษาแนวคิดและความจำเป็นของความร่วมมือข้ามภาคส่วนเพิ่มเติมในการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การยกระดับการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศผ่านการดำเนินงานร่วมกันของภาคพลังงานทดแทน คมนาคมขนส่ง และอุตสาหกรรม (Sector Coupling)” การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ประกอบด้วยการบรรยายที่สร้างแรงบันดาลใจจากผู้เชี่ยวชาญในภาคขนส่ง พลังงานหมุนเวียน ชีวมวล และอุตสาหกรรม รวมทั้งการอภิปรายกลุ่มเพื่อหาแนวทางที่เป็นไปได้ของ Sector Coupling สำหรับประเทศไทย


ดร.แอ็นสท์ ไรเชิล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย กล่าวว่า เยอรมนีมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่ออนาคตที่เป็นกลางทางคาร์บอนทั้งในประเทศและผ่านความร่วมมือกับภาคีทั่วโลก TGC EMC ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไทยและเยอรมัน คือตัวอย่างของแนวทางสหวิทยาการที่นำความชำนาญของทั้งสองประเทศมารวมกัน ความร่วมมือข้ามภาคส่วนที่เป็นเอกลักษณ์นี้ทำหน้าที่เป็นต้นแบบของการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุมในทุกด้านที่สำคัญ ตั้งแต่พลังงานและการขนส่ง ไปจนถึงอุตสาหกรรมและชีวมวล

โครงการ TGC EMC จัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านแนวทางการทำงานร่วมกันแบบข้ามภาคส่วน ครอบคลุม และมุ่งเน้นการแก้ปัญหา การบูรณาการที่ครอบคลุมนี้คือกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคส่วนที่มีผลกระทบสูงให้ประสบความสำเร็จ เราจะสร้างเสริมศักยภาพสูงสุดเพื่ออนาคตที่สะอาดและยั่งยืนยิ่งขึ้นได้ด้วยการเชื่อมโยงภาคส่วนเหล่านี้เข้าด้วยกันเท่านั้น

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) กล่าวว่า พิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 8 หน่วยงานดำเนินโครงการในวันนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานดำเนินโครงการทั้ง 8 หน่วยงานในการร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ TGC EMC ที่สอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย งานในวันนี้มีความหมายยิ่งกับ TGC EMC เนื่องจากโครงการนี้ย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการที่ครอบคลุมหลายภาคส่วน หรือ “Sector Coupling” เพื่อสนับสนุนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนใน ค.ศ. 2050

ทั้งนี้ TGC-EMC กำลังทำงานอย่างแข็งขันในหลายภาคส่วนเพื่อช่วยประเทศไทยพัฒนาแนวทางการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์ ปรับปรุงนโยบาย รวมทั้งนำร่องและขยายเส้นทางการเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทุนเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ThaiCI) ซึ่งได้รับงบประมาณเฉพาะ 4 ล้านยูโร (ราว 140 ล้านบาท) จะถูกจัดตั้งเป็นทุนเฉพาะด้านสภาพภูมิอากาศภายใต้กองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับท้องถิ่นของประเทศไทย

การที่แต่ละภาคส่วนทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการลดการปล่อยคาร์บอนนั้นไม่ยังเพียงพอ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องก้าวข้ามพรมแดนของภาคส่วนเรา และเริ่มเชื่อมโยงประสานกัน การทำงานร่วมกันอย่างแท้จริงแบบบูรณาการเท่านั้นที่จะทำให้เราใช้ศักยภาพให้เต็มที่และบรรลุเป้าหมายได้

คุณอินซ่า อิลเก้น ผู้อำนวยการโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมันด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TCG EMC) กล่าวว่า โครงการ TGC EMC กับหน่วยงานภาคี มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนประเทศไทยตลอดระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าในการทำงานสร้างความเปลี่ยนแปลง โดยที่โครงการนี้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศภายใน ค.ศ. 2050 ของรัฐบาลไทย

พร้อมกันนี้ยังชี้แจงความหมายของธีม “Sector Coupling” ซึ่งเป็นทั้งศูนย์กลางของงานในครั้งนี้และเป็นความพยายามในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั่วโลกเพื่อสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง เราให้ความสำคัญกับไฟฟ้าและมุ่งเน้นการเพิ่มการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพียงแค่นั้นไม่ได้ เราต้องนำมาตรการด้านประสิทธิภาพพลังงานมาใช้และขยายการใช้พลังงานหมุนเวียนในทุกภาคส่วนด้วย

คำบรรยายนี้ ต่อยอดมาจากปาฐกถาผ่านวิดีโอของนายฟิลิป เบห์เรนส์ จากกระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMWK) ซึ่งเน้นย้ำถึงพันธสัญญาและการสนับสนุนที่ไม่หยุดยั้งของกระทรวงฯ ต่อความร่วมมือระหว่างไทยกับเยอรมนีด้านพลังงาน คมนาคม และสภาพภูมิอากาศระหว่างไทย โดยนายเบห์เรนส์ยังได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Sector Coupling ในฐานะองค์ประกอบสำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืนอีกด้วย. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ในหลวงทรงรับคนไข้

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะนายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้บาดเจ็บ แพทย์แจงอาการดีขึ้นแล้ว

Building after collapses in Myanmar in front of monk's eye

แผ่นดินไหวทำตึกเมียนมาถล่ม-ยอดตายเกินพันแล้ว

มัณฑะเลย์ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวานนี้ ทำให้อาคารหลังหนึ่งถล่มต่อหน้าต่อตากลุ่มพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจนถึงขณะนี้เกิน 1,000 คนแล้ว คลิปภาพที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนบกที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เห็นกลุ่มพระสงฆ์รวมตัวกันอยู่บนถนนใกล้อาคารหลังหนึ่งที่ค่อย ๆ เสียการทรงตัว ก่อนพังถล่มลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ฟุ้งกระจาย รอยเตอร์รายงานเมื่อเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลเมียนมาแถลงล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,002 คนแล้ว ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐหรือยูเอสจีเอส ซึ่งแจ้งขนาดแผ่นดินไหวไว้ที่ 7.7 และมีศูนย์กลางลึกเพียง 10 กิโลเมตรประเมินจากแบบจำลองการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเกิน 10,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย  

สาเหตุตึกถล่ม

นายกฯ เร่งกรมโยธาดูสาเหตุตึกถล่ม-หาทางแก้

นายกฯ รับรายงายสถานการณ์แผ่นดินไหว เร่งกรมโยธาดูสาเหตุ-หาทางแก้ตึกถล่ม ย้ำ ปชช. มั่นใจได้ เหตุแผ่นดินไหวตอนนี้ไม่กระทบไทยแล้ว เตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

วัดเสียหายแผ่นดินไหว

วัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

สำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์เชียงใหม่ สำรวจโบราณสถาน พบวัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มีทั้งรอยร้าว ฐานพระพุทธรูปอายุกว่า 700 ปีทรุด ยอดฉัตรทองคำหักเอียง