3 พ.ย. – บางแสน42 ชลบุรีมาราธอน สุดเดือด “อรอนงค์” เข้าเส้นชัยอันดับ 1 ทุบสถิติสนาม 2.52.30 ชั่วโมง ด้าน “บิ๊ก-ณัฐวุฒิ” คว้าแชมป์แรกบางแสน42 นักวิ่งเคนย่า-เอธิโอเปีย ครองแชมป์โอเวอร์ออลชาย-หญิง
บางแสน42 ชลบุรีมาราธอน 2024 งานวิ่งมาราธอนมาตรฐานระดับ World Athletics Elite Label ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 โดยได้รับเกียรติจาก นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข และนายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร Race Director งานวิ่งบางแสน42 ชลบุรีมาราธอน เป็นประธานเปิดการแข่งขันและปล่อยตัวนักวิ่งกว่า 12,000 คน ณ บริเวณหน้าโรงแรมบางแสนเฮอริเทจ จังหวัดชลบุรี
ผลการแข่งขันที่ 1 โอเวอร์ออลฝ่ายชาย ได้แก่ คาลิปุส ลอมไวย์ นักวิ่งปอดเหล็กจากเคนย่า เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 2:19:03 ชั่วโมง อันดับ 2 ได้แก่ กลอฟฟรี เบอเจน จากเคนย่า เวลา 2:19:12 ชั่วโมง อันดับ 3 ได้แก่ ดาเมทิว เดชาซ่า เบย์เยเน่ จากเอธิโอเปีย เวลา 2:20:07 ชั่วโมง
ส่วนที่ 1 โอเวอร์ออลฝ่ายหญิงตกเป็นของ เมห์เร็ต เกเมด้า โรบ จากเอธิโอเปีย ที่เร่งฝีเท้าเฉือนเข้าเส้นชัย ไปด้วยเวลา 2:42:18 ชั่วโมง โดยอันดับ 2 ได้แก่ ทีกีสต์ บิกิลา เดมี จากเอธิโอเปีย เวลา 2:42:19 ชั่วโมง และอันดับ 3 ได้แก่ อายันทู คูเมล่า ทาเดดส์เซ่ จากเอธิโอเปีย เวลา 2:42:24 ชั่วโมง
สำหรับแชมป์นักวิ่งชาวไทยอันดับ 1 ฝ่ายชาย ได้แก่ ณัฐวุฒิ อินนุ่ม ลงแข่งสนามบางแสน42 ครั้งแรก ก็สามารถวิ่งนำม้วนเดียวเข้าเส้นชัยคว้าอันดับ 1 ด้วยเวลา 2:32:41 ชั่วโมง
และที่ 1 ฝ่ายหญิงตกเป็นของ อรอนงค์ วงศร ที่สามารถวิ่งทำลายสถิติสนาม เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2.52:30 ชั่วโมง ครองแชมป์นักวิ่งหญิงชาวไทย ได้รับเงินรางวัลพิเศษจากนายกตุ้ย 100,000 บาท พร้อมคว้าตั๋วไปวิ่งงาน Nagoya Women’s Marathon ณ ประเทศญี่ปุ่น
นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร Race Director งานวิ่งบางแสน42 ชลบุรีมาราธอน กล่าวว่า ภาพรวมการจัดงานในปีนี้ถือว่าดีมาก ที่เราได้เห็นนักวิ่งกลับมารวมตัวแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน ภายใต้สภาพอากาศที่เย็นสบาย ทำให้สถิติการวิ่งปีนี้โดยรวมดีขึ้นมาก มีการทำลายสถิติสนามขึ้นมาใหม่ของนักวิ่งหญิงไทย และสถิติ Top 100 ชาย-หญิง มีการทำเวลาที่เร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่าสถิติ Top100 ในปีหน้าจะดีขึ้นกว่านี้อีก จากการจัดงานวิ่งมาราธอนในครั้งนี้ นับว่าสร้างทางลัดให้กับเศรษฐกิจของเมืองบางแสน จังหวัดชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นการกระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการในพื้นที่ในหลากหลายธุรกิจได้เป็นอย่างดี