ทนายบอสพอล รับมีแม่ข่ายถอนฟ้องแล้วกว่า 100 คน เตรียมดึงมาเป็นพยาน

กรุงเทพฯ 30 ต.ค. – ทนายบอสพอล ยันมีทนายชื่อดังคอยชี้นำให้การผู้เสียหาย รับมีแม่ข่ายถอนฟ้องแล้วกว่า 100 คน เตรียมดึงมาเป็นพยาน บอกลูกความ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ แกล้งตายให้เป็น แล้วรอวันเอาคืน”


วันนี้นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ต้องหาในคดีบริษัท The Icon Group ได้เดินทางมาเยี่ยมบอสพอลในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พร้อมกับออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า หลังจากที่ทีมทนายความสามารถเข้าถึงระบบหลังบ้านได้แล้ว ก็พบว่ามีตัวแทนของ The Icon มากกว่า 280,000 ราย แต่เบื้องต้นทีมทนายความสามารถรวบรวมตัวแทนที่สมัครใจจะมาเป็นพยานให้กับฝั่งผู้ต้องหาได้แล้วกว่า 2,000 ราย ซึ่งคนเหล่านี้คือตัวแทนที่สามารถทำยอดขายได้จริงและสามารถมายันในคดีได้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากการขายของไม่ได้เอง ไม่ได้เกิดจากการฉ้อโกง โดยหากคดีนี้ DSI รับเป็นคดีพิเศษเมื่อไหร่ ตนก็เตรียมจะประสานนำพยานทั้ง 2 พันกว่าคนนี้ทยอยเข้าให้ปากคำทันที

ทั้งนี้ พบว่าบรรดาตัวแทนที่เข้าแจ้งความก่อนหน้านี้จำนวนกว่า 9,200 คนนั้น ตนได้ข้อมูลพบว่า มีทนายความสำนักหนึ่งได้จัดพิมพ์แพทเทิร์นประเด็นมาให้บรรดาแม่ข่ายให้ปากคำกับตำรวจเป็นลักษณะเดียวกัน เพื่อกล่าวหาบริษัท The Icon Group และบรรดาบอส เช่น บริษัทนี้มีลักษณะของการโฆษณาชวนเชื่อเกินความเป็นจริง ลักษณะสินค้าไม่ได้มาตรฐาน บังคับให้เปิดดีลเลอร์ บังคับให้ยิงอัดโฆษณา รวมทั้งการที่บอสนำทรัพย์สินหรูมาเผยแพร่ในสื่อสาธารณะเพื่อเป็นโฆษณา ชักจูง ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นการปรักปรำและเป็นการชี้นำในการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน


ตนจึงอยากแนะนำว่า ผู้ใดก็ตามที่ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในลักษณะแพทเทิร์นที่ได้มาจากทนายความสำนักดังกล่าว ขอให้ไปดำเนินการติดต่อพนักงานสอบสวนทุกท้องที่เพื่อแก้ไขคำให้การหรือจะถอนแจ้งความก็ได้ เพราะมิเช่นนั้นอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จ โดยตนยืนยันว่านี่ไม่ใช่เป็นการข่มขู่ แต่เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายและตนจะทำจริง พร้อมทั้งยกฎีกาตัวอย่างในคำพิพากษาฎีกาที่ 6969/2555 ซึ่งตัดสินเอาไว้ว่า ในคดีฉ้อโกงนั้นผู้ที่ต้องรับผิดจะเป็นบรรดาแม่ข่ายหรือตัวแทนบริษัท และยืนยันว่าบริษัท The icon Group จำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐานและไม่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่แต่อย่างใด ตอนนี้เท่าที่ตนทราบ พบว่ามีแม่ข่ายเตรียมถอนแจ้งความแล้วประมาณกว่า 100 คน ทราบเหตุผลว่าพวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคดีอาญา ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นเรื่องของทางแพ่ง โดยตนก็เตรียมที่จะดึงกลุ่มคนเหล่านี้มาเป็นพยานเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ การเข้าเยี่ยมบอสพอลในวันนี้นั้น พบว่าทางเรือนจำยังไม่ได้มีการแยกแดนผู้ต้องขัง โดยตัวบอสพอลมีอาการปกติ ไม่ได้มีความเครียดหรือกังวล และรู้สึกปลอดภัยกว่าอยู่ข้างนอก ส่วนที่ต้องมาเยี่ยมทุกวันนั้น เพื่อเป็นการพูดคุยแนวทางการต่อสู้คดี เนื่องจากตอนนี้ทนายความของผู้ต้องขังทุกคนได้รวมทีมเป็นทีมเดียวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้กำแพงเรือนจำเป็นฐานต่อสู้คดี ซึ่งผู้ต้องขังทุกคน รวมทั้งบอสดารานั้น ยังไม่แสดงความประสงค์ที่จะยื่นประกันตัวในช่วงนี้ เพราะเนื่องจากกระแสสังคมในตอนนี้ที่ติดลบ หากยื่นประกันไปศาลก็ไม่พิจารณาให้ประกันตัว ส่วนออเดอร์ของบอสพอลตอนนี้มีหลายออเดอร์ แต่กำลังรอความชัดเจนว่าคดีนี้จะอยู่ในมือใคร ซึ่งหากรู้หน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นหลักแล้ว ก็จะเริ่มดำเนินการเคลียร์ทีละออเดอร์ต่อไป

ทนายวิฑูรย์ ได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ตนได้ให้คำแนะนำกับบอสพอลและบอสทุกคนที่อยู่ในเรือนจำว่า ตอนนี้ขอให้อดทน “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ แกล้งตายให้เป็น แล้วรอวันเอาคืน” ซึ่งผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าจะเอาคืนใคร ทนายได้แต่ยิ้มหัวเราะและไม่ตอบคำถามดังกล่าว. -420-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เบื้องหลังการถ่ายทอดขบวนเรือพระราชพิธีฯ

วันที่ 27 ตุลาคม 2567 ประเทศไทยมีพระราชพิธีสำคัญคือ พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

ข่าวแนะนำ

เปิดใจ “มาดามอ้อย” ลั่น “กราบเท้าก็สายไปแล้ว”

“มาดามอ้อย” ลั่นเดินหน้าดำเนินคดี “ทนายตั้ม” ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท ถึงที่สุด ระบุก้มกราบเท้าก็สายไปแล้ว ขณะที่ “สนธิ” ยืนยันไม่ได้รับงานเพื่อเปิดโปงพฤติกรรมฉ้อโกง

สภาฯ ผ่านฉลุย “กม.ห้ามตีเด็ก”

สภาฯ ผ่านฉลุย “กม.ห้ามตีเด็ก” “ณัฐวุฒิ” ชี้แม้ไม่มีคำว่า “ไม่เป็นการเฆี่ยนตี” ไม่ได้หมายความว่าผู้ปกครองจะทำร้ายบุตรได้ เหตุยังมี กม.คุ้มครองเด็ก เอาผิดอยู่

อุตุฯ เลื่อนประกาศเข้าฤดูหนาว คาดเข้าเกณฑ์ไม่เกิน 2 สัปดาห์

โฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา เผยเลื่อนประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศไทยยังไม่เข้าเกณฑ์ คาดเข้าเกณฑ์ไม่เกิน 2 สัปดาห์