กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – ฟิทช์ระบุเศรษฐกิจไทยและธนาคารพาณิชย์ยังเผชิญกับความท้าทาย แม้ว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้ง จัดการสัมมนาประจำปีของบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานของรัฐ นักลงทุน และผู้บริหารระดับสูงจากภาคธุรกิจและการเงิน เข้าร่วมงานมากกว่า 250 คนเข้าร่วม และมีมุมมอง ต่อเศรษฐกิจไทยว่าแม้ว่าเศรษฐกิจปี 2560 เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่การเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะปานกลางยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากสัดส่วนหนี้สินภาคครัวที่อยู่ในระดับสูง และผลกระทบเชิงลบจากสัดส่วนโครงสร้างประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น ขณะที่สภาพแวดล้อมการดำเนินงานและผลการดำเนินงานโดยรวมของภาคธนาคารพาณิชย์ไทยยังคงมีแนวโน้มเป็นลบ แม้ว่าปี 2561 จะมีการคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อ คุณภาพสินทรัพย์ และอัตราการทำกำไรจะมีการปรับตัวดีขึ้นบ้าง
นายแอนดรู แฟนเนลล์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดอันดับเครดิตประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีสถานะที่ค่อนข้างแข็งแกร่งด้านฐานะหนี้สินต่างประเทศและฐานะทางการคลัง ซึ่งน่าจะช่วยรองรับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ อันดับเครดิตของประเทศต่าง ๆ ในปี 2560 โดยภาพรวมมีความเป็นลบลดลง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น ปริมาณการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวมีเสถียรภาพมากขึ้น สภาวะเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคเอเชียยังคงอยู่ในระดับดีกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น โดยปัจจุบันมี 3 ประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของประเทศสหรัฐอเมริกา การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศจีน และแนวโน้มที่อาจจะมีการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าเข้มข้นขึ้น ยังคงเป็นความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อสภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคได้
ส่วนภาคธนาคารพาณิชย์ นายโจนาธาน คอนนิช หัวหน้ากลุ่มจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาคยังคงเผชิญกับปัจจัยลบ แต่ระดับความรุนแรงของปัจจัยลบนั้นลดลงเมื่อเทียบกับเมื่อช่วงต้นปี 2560 เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปีนี้ดีกว่าที่คาดการณ์ ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง และปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคโดยรวมที่อยู่ในระดับดี อย่างไรก็ตาม สภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานยังคงมีความท้าทายทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระบบธนาคารในภูมิภาคเอเชียแต่ละแห่งอาจได้รับผลกระทบในระดับที่ไม่เท่ากันและธนาคารบางแห่งอาจสามารถรับมือกับปัจจัยเสี่ยงหรือผลกระทบได้ดีกว่าธนาคารอื่น
นายบุชดิกา ปิยะเสนา หัวหน้ากลุ่มจัดอันดับเครดิตภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคเอเชียต้องเผชิญกับความท้าทายจากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่จะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้แต่ละประเทศต้องมีการปรับนโยบายการเงินให้สอดคล้องและอาจส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบให้อุปสงค์ในภาคอุตสหกรรมปรับตัวอ่อนลงและส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ อีกทั้งการผิดนัดชำระหนี้ของภาคธุรกิจในประเทศจีนน่าจะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทางการจีนมีความพยายามที่จะควบคุมระดับหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจเอกชนและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลท้องถิ่น รวมทั้งควบคุมกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรม.-สำนักข่าวไทย