นายกฯ ชู “ซอฟต์พาวเวอร์” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

แกรนด์ ไฮแอทเอราวัณ 21 ต.ค.- นายกฯ ชู “ซอฟต์พาวเวอร์” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ยกระดับเทศกาล “มหาสงกรานต์-ลอยกระทง-ผีตาโขน-แห่เทียนพรรษา-บุญบั้งไฟ” เป็น “Festival country” เที่ยวได้ทั้งปี สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในท้องถิ่น


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย ไปอย่างไรให้มีพลัง” ในงานเสวนา เดลินิวส์ ทอล์ก 2024 “Soft Power: โอกาสประเทศไทย” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ว่า ในวันนี้ประเทศไทย ติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลางมาหลายสิบปีแล้ว ซึ่งการจะยกระดับให้เป็นประเทศรายได้สูง คงไม่ใช่เรื่องง่าย และด้วยปัจจัยเรื่องความสามารถในการแข่งขัน คุณภาพของการศึกษา และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยต้องมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ซึ่ง 1 ในยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ รัฐบาลเชื่อมั่นว่าซอฟต์พาวเวอร์จะเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้พุ่งทะยานภายในทศวรรษหน้า และจะเป็นนโยบายที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยได้หลายสิบล้านคน ทั้งนี้ ประเทศไทย เราร่ำรวยด้วยทุนวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ ขายได้ พัฒนาได้ ทำให้ชาวต่างชาติหลงใหลได้ไม่ยากอยู่แล้ว และดิฉันเชื่อมั่นว่า คนไทยเก่ง มีศักยภาพ มีทักษะสร้างสรรค์ที่รอโอกาสในการพัฒนา
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า หัวใจสำคัญของนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ คือ การพัฒนาแรงงานทักษะต่ำ ให้เป็นแรงงานทักษะสูง แล้วเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการจากทักษะสูง ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดด้วยนวัตกรรม สร้างแบรนด์ดิ้งที่มีเรื่องเล่า ให้คนทั่วโลกได้เข้าใจและเห็นคุณค่า การต่อยอดเพิ่มเติมทักษะเดิมที่มีอยู่แล้ว ( Up-skill ) และการฝึกอบรมสร้างทักษะใหม่ ( Re-skill ) เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานราชการ นักวิชาการมหาวิทยาลัย ภาคเอกชน แรงงาน ก็พูดคำนี้อยู่ตลอดเวลา แต่ที่ผ่านมา มักทำกันแยกส่วน ยังไม่มีการบูรณาการกันเป็นระบบอย่างจริงจัง ซึ่งการทำนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ครั้งนี้ภายใต้โครงการ “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์” หรือ  OFOS – One Family One Soft Power เราจะทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันขับเคลื่อน   ออกแบบหลักสูตรการอบรมที่ใช้ประกอบอาชีพได้จริง ทั้งการอบรมในสถานที่ออนไซต์และการอบรมออนไลน์ ทุกคนเรียนได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ทำให้การยกระดับศักยภาพระดับทักษะจากขั้นต่ำ ไปสู่ขั้นกลาง และขั้นสูงอย่างไม่มีข้อจำกัดและให้เข้าถึงง่ายที่สุด


นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า โดยเป้าหมายของเรา คือ ทำให้คนไทยสามารถประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ทุกสาขาได้ ยกระดับสินค้าและบริการจากวัฒนธรรมไทย ให้มีคุณภาพมากขึ้น สร้างสรรค์มากขึ้น มีเสน่ห์มากขึ้น ทำให้ไม่ต้องกังวลในการแข่งขันเรื่องราคากับผู้ผลิตสินค้าที่มีข้อได้เปรียบในการผลิตจำนวนมาก หรือ Economy of scale ตัวอย่าง เช่น Korakot แบรนด์ปฏิมากรรมไม้ไผ่จากภูมิปัญญาไทย เขาสานด้วยไม้ไผ่เป็น โคมไฟ เป็นของตกแต่ง เป็นเฟอร์นิเจอร์ ที่สวยงาม ใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่เล่นแสงและเงาอย่างโดดเด่น ซึ่งประสบความสำเร็จมากในเวที ทั่วโลกจนแบรนด์หรูของฝรั่งเศส  จ้างแบรนด์  Korakot ทำ window backdrop ให้กับคอลเล็กชั่นปัจจุบัน นี่คือภาพที่รัฐบาลอยากเห็นการพัฒนาภูมิปัญญาพื้นบ้านแล้วใส่ความคิดสร้างสรรค์ไปให้ถึงระดับโลก เราอยากยกระดับช่างศิลป์ทุกคน ทุกท้องถิ่น ให้ได้มีโอกาสเรียนรู้ ใช้ทักษะสร้างสรรค์แบบนี้ไปให้ถึงระดับโลก เพราะตลาดโลกกว้างใหญ่ ไร้พรมแดน ไม่มีขอบเขตจำกัด
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า อย่างอุตสาหกรรมอัญมณีไทยที่เติบโตจากหลักหมื่นล้านเมื่อ 20 ปีก่อน เป็นกว่า 500,000 ล้านในปัจจุบัน และยังสามารถเติบโตได้อีกหลายเท่า แต่ขาดแคลนช่างอัญมณีจำนวนมาก เพราะไม่มีการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ ขาดแรงงานทักษะสูงจนต้องแย่งตัวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากในการเสียโอกาส เพราะขาดแรงงานที่มีศักยภาพตรงนี้มากเลย นอกจากนั้น เราต้องไม่เพียงเป็นศูนย์กลางการผลิตอัญมณีของโลก เท่านั้น เรายังจะผลักดันให้มีอัญมณีที่เป็นแบรนด์ไทยให้มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับในระดับโลกอีกด้วย

“จากที่ดิฉันได้ไปประชุม ACD รวมถึง ASEAN ที่ผ่านมา หลายประเทศให้ความสนใจใน วัฒนธรรมของไทยมาก โดยเฉพาะเรื่องอาหารไทย ซึ่งแต่ละชาติก็มีความสนใจแตกต่างกันไป” น.ส.แพทองธารกล่าว
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับวงการอาหาร เราต้องเปลี่ยนประเทศไทย จากเกษตรกรรมที่ส่งออกพืชผล สู่อุตสาหกรรมอาหารสมัยใหม่ นอกจากเราจะผลักดัน “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ให้มีร้านอาหารไทยที่มีรสชาติแท้ และใส่ความคิดสร้างสรรค์ในทุกจานไปทั่วทุกมุมโลกแล้ว โดยใช้เทคโนโลยีถนอมอาหารที่เก็บได้นาน 2 ปี  เติมนวัตกรรมอาหารด้วย Food Lab ที่ช่วยรักษารสชาติ และกลิ่นของอาหาร ยกตัวอย่างที่โด่งดังมากในอเมริกา คือ ขนมครกแช่แข็ง ที่วางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต ขายดีมาก จนสร้างกระแสไวรัล เพราะสามารถคงรสชาติของขนมครกไว้ได้ดี ด้วยการใช้นวัตกรรมถนอมอาหาร อย่างเช่น อาหารอิตาลีที่ครองใจคนทั่วโลกในเวลานี้ ทุกประเทศมีร้านอาหารอิตาลี ทุกซุปเปอร์มาร์เก็ตมีอาหารอิตาลีแช่แข็งขาย ทั้งพิซซ่า และ พาสต้า ซึ่งเราเชื่อว่าอาหารไทยพร้อมทานเช่น ต้มยำกุ้ง พะแนงเนื้อ ผัดกะเพรา ต้มข่าไก่ จะทำให้ต่างประเทศรู้จักเรามากยิ่งขึ้น
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันนี้นวัตกรรมด้านถนอมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีรีทอร์ท การทำอาหารแช่แข็ง การยืดอายุอาหาร การคงความสดของอาหารเอาไว้ มีราคาถูกลงมาก ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้คือโอกาสใหม่ของอาหารไทย หากลองนึกภาพว่า ถ้าเรามีโรงสีข้าวในชุมชนได้ เราก็สามารถมีนวัตกรรมถนอมอาหารแบบเครื่องรีทอร์ทในชุมชน ซึ่งจากการวิจัยของสถาบันอาหาร ราคาเครื่องเหลือไม่กี่แสนได้เหมือนกัน ชุมชนไหนที่มีเมนูเด็ด จะสามารถเพิ่มมูลค่าของเมนูอาหารท่องถิ่นที่สามารถส่งออกได้ทั่วโลกมากมาย  จึงต้องเร่งทำ เพราะความมั่นคงทางอาหารจะเป็น แหล่งรายได้ และมีความสำคัญสำหรับโลกในอนาคต
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังมีโอกาส ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness) เพราะเทรนด์ทั้งโลกหันมาสนใจ การอยู่ดีมีสุข สุขภาพกายและใจที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจนี้กำลังเติบโตมากทั้งโลก และรวมถึงบ้านเราซึ่งประเทศไทยเรามีครบวงจร เรื่องอาหารสุขภาพ สมุนไพรไทยเรามีภูมิปัญญาซึ่งเป็นมรดกโลกอย่างการนวดไทย มีมวยไทยสำหรับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและยังโด่งดังไปทั่วโลก รวมถึงความแข็งแกร่งทางการแพทย์ของประเทศไทยทำให้ประเทศไทยมีโอกาสอย่างมากในอุตสาหกรรม Wellness ซึ่งต้องมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการท่องเที่ยวด้วย Human made tourism ซึ่งเราจะยกระดับเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาสงกรานต์ ลอยกระทง หรือระดับท้องถิ่น เช่น ผีตาโขน แห่เทียนพรรษา และบุญบั้งไฟ เสริมภาพลักษณ์  Festival country  ประเทศที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี มีเทศกาลใหม่ให้มาเที่ยวได้เสมอ ซึ่งจะสร้างเศรษฐกิจเทศกาล ให้หมุนเวียนอย่างมากมายในทุกท้องถิ่น  รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่สำหรับการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังให้ความสำคัญ  ทั้งหมดนี้คือโอกาสของประเทศไทยในกรอบของคำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ เราจะยกระดับชีวิตของพี่น้องประชาชนตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้
 
“สิ่งสำคัญที่สุดคือประชาชนกับรัฐบาล เราคือหุ้นส่วนประเทศไทยร่วมกันค่ะหุ้นส่วนประเทศไทยจะช่วยกันพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรือง เป็นประเทศพัฒนาที่มีรายได้สูง และคนไทยทุกคนไม่ยากจนอีกต่อไปเมื่อพี่น้องประชาชนพัฒนาศักยภาพทักษะของตัวเอง ยกระดับรายได้และฐานะให้ร่ำรวยรัฐบาลก็จะสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้นตามไปด้วย ภาษีที่เก็บได้จะนำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองขึ้นไปอีกมาทำงานร่วมกันเพื่อประเทศที่เรารักของเราทุกคนกัน” น.ส.แพทองธาร กล่าว .314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]