กัมพูชา 24 ต.ค.-“อนุทิน” นำผู้แทนไทยร่วมประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 8 ส่งเสริมความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ผ่านความร่วมมือ 10 ประเด็น เศรษฐกิจ ความมั่นคง พร้อมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 75 ปี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานร่วมฝ่ายไทยพร้อมนำคณะผู้แทนฝ่ายไทยเข้าร่วมการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 8 โดยฝ่ายกัมพูชามี ฯพณฯ อภิสันติบัณฑิต ซอร์ ซกคา (H.E. Mr. Abhisantibindit Sar Sokha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา
การประชุมร่วมฯ ดำเนินภายใต้หัวข้อ “การเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุมในพื้นที่ชายแดน” ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและยืนยันที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติระหว่างจังหวัดชายแดนรวมถึงการเสริมสร้างพรมแดนร่วมกันที่สงบสุขมีมิตรภาพ มีการร่วมมือที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั้ง 2 ประเทศ เน้นย้ำ การเสริมสร้างความร่วมมือหลากหลายด้านใน 10 ประเด็น ดังนี้
1.การข้ามแดน : ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างการปฏิบัติตามความตกลง ว่าด้วย การข้ามแดนระหว่างประเทศทั้งสอง ซึ่งลงนาม เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 และกระตุ้นให้หน่วยงานจังหวัดชายแดนร่วมมือในการควบคุมการข้ามพรมแดน
2.ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนบริเวณชายแดน: ทั้งสองฝ่ายกระตุ้นและสนับสนุนให้หน่วยงานจังหวัดชายแดนร่วมกันส่งเสริมการค้าชายแดน เช่น การจับคู่ ธุรกิจ การส่งเสริมการสัมมนาการลงทุน การจัดงานแสดงสินค้า การขนส่งสินค้าผ่านแดน การนำเข้า – ส่งออกสินค้าทางการเกษตร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนการประชุม คณะกรรมการการค้าร่วมระหว่างไทยและกัมพูชา และส่งเสริมความร่วมมือของภาคเอกชน ในสองประเทศ และทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะอำนวยความสะดวกในการขนส่งผลิตภัณฑ์ ทางการเกษตรข้ามแดน โดยเฉพาะในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว
3.ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม: ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนนักลงทุนของสองประเทศที่ดำเนินกิจการในจังหวัดชายแดน
4.การคมนาคมขนส่ง: ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเสริมสร้างและขยายความร่วมมือ ในด้านการขนส่งและการเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน ที่รัฐบาลทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะจัดตั้งด่านชายแดนในพื้นที่ชายแดนที่มีศักยภาพ ในกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะสนับสนุนการพัฒนาบริการขนส่งสินค้า ทางรถไฟข้ามแดนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนด้านการคมนาคมขนส่ง
5.ความร่วมมือด้านการเกษตรบริเวณชายแดน: ทั้งสองฝ่ายส่งเสริมให้จังหวัดชายแดนของทั้งสองประเทศอำนวยความสะดวกในการค้าขายสินค้าทางการเกษตร ของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณตามแนวชายแดน และทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะส่งเสริม ความร่วมมือในด้านการป้องกันและจัดการป่าไม้ การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการป้องกันการค้าของเถื่อนข้ามแดนในผลิตภัณฑ์ป่าไม้และสัตว์ป่า
6.ความร่วมมือด้านแรงงาน: ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความขอบคุณและรับทราบถึงฝ่ายไทยที่ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมกลับเข้าประเทศ สำหรับแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 ถึง 15 พฤษภาคม 2567 และทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ ที่จะส่งเสริมการจัดฝึกอบรมวิชาชีพให้แก่ประชาชน ตามบริเวณชายแดน เพื่อพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะให้ คำแนะนำเจ้าหน้าที่จังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ในการป้องกันและจับกุมหัวหน้ากลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายที่ลักลอบนำเข้าแรงงานข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายมายังทั้งสองประเทศ
7.จุดผ่านแดน: ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมมือในการเร่งรัดการดำเนินการในการเปิดจุดผ่านแดนที่ยังคงเหลืออยู่ที่เห็นชอบร่วมกันโดยรัฐบาลของทั้งสองประเทศ และเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการยกระดับจุดผ่านแดนใหม่ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและอำนวยความสะดวกในการค้าชายแดน และการคมนาคมข้ามแดน ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบริเวณจุดผ่านแดน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการข้ามแดนที่มากขึ้นระหว่างสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดในการลด ความซับซ้อนและทำให้กระบวนการการสัญจรข้ามแดนระหว่างสองประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรข้ามแดน และแก้ไขความแออัดบริเวณจุดผ่านแดน
8.การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน: ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการเสริมสร้างความร่วมมือและสนับสนุนการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน และทั้งสองฝ่ายยืนยันในเจตนารมณ์ ที่จะไม่นำเอาประเด็นเส้นเขตแดนมากระทบความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ และงดเว้นการดำเนินการใด ๆ ที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายแดน
9.การลักลอบตัดไม้โดยผิดกฎหมาย: ทั้งสองฝ่ายกระตุ้นให้หน่วยงานในจังหวัดชายแดนร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า และอาชญากรรม ที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติตามบริเวณชายแดนกันต่อไป
10.การป้องกัน และการปราบปราม อาชญากรรมบริเวณชายแดน: ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะขยายความร่วมมือในด้านความปลอดภัย ความเป็นระเบียบ และความมั่นคง เพื่อรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความปลอดภัยของทั้งสองประเทศ ทั้งสองฝ่าย ยกย่องชื่นชมกองกำลังที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่บริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ ในการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ ตามบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ และตกลงที่จะดำเนินการส่งเสริมความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงจุดยืนร่วมกันที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใดใช้ดินแดนของทั้งสองฝ่ายแทรกแซงกิจการภายในต่อกัน หรือใช้ดินแดนเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมคุกคามความมั่นคงของอีกฝ่าย รวมถึงประเทศอื่นด้วย
ที่ประชุมยังได้หารือความร่วมมือด้านอื่น ๆ ระหว่างจังหวัดชายแดนของทั้งสองประเทศ และเห็นพ้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ท้องที่ และท้องถิ่น ประชุมหารือร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ สลับกันเป็นเจ้าภาพ โดยความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัด ชายแดน ท้องที่ และท้องถิ่นของทั้งสองประเทศและในปีหน้า พ.ศ. 2568 ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมแสดงความยินดีอย่างยิ่งในโอกาสครบรอบ 75 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตต่อไป โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 9 ซึ่งจะมีการประสานผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อกำหนด วัน เวลา และสถานที่การจัดการประชุมต่อไป.-317.-สำนักข่าวไทย