สาวแจ้งความภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ

23 ต.ค. – หญิงสาวแจ้งความภรรยาอดีตตำรวจยศนายพล แอบกิ๊กสามี แถมย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ มูลค่าหลายล้านบาท ด้านตำรวจเรียกผู้เสียหายสอบเพิ่ม พร้อมเก็บภาพวงจรปิดตรวจสอบแล้ว


จากกรณีมีหญิงรายหนึ่งเป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจ มาร้องทุกข์ผ่านรายการดังว่า สามีของเธอ ซึ่งเป็นข้าราชการ รู้จักกันมา 3 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากันเลย แต่จากนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนเก่าของสามี ปัจจุบันแต่งงานไปกับอดีตบิ๊กตำรวจเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสามี โดยผู้หญิงคนนี้คบซ้อนระหว่างสามีของเธอกับบิ๊กตำรวจมาตลอด

ผู้เสียหายสืบพบว่ามีการแอบคุยและนัดเจอกันมาตลอด โดยสามีบอกว่าแค่ติดต่อให้คำปรึกษากันเท่านั้น ด้วยความสงสัย เธอจึงติดกล้องวงจรปิดในบ้าน และเห็นภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน สามีอ้างว่าฝ่ายหญิงเป็นคนเริ่มก่อน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีทะเบียนสมรสก็ตาม จึงทำให้มีปัญหากันเรื่อยมา


หลังจากทราบเรื่อง ผู้เสียหายบอกขอร้องอีกฝ่ายให้หยุดติดต่อกับสามีของตน แต่ฝ่ายหญิงยังไม่ยอมจบ ยังติดต่อกันตลอด นอกจากนี้ ยังพบว่าทรัพย์สินและเงินสดที่เตรียมไว้สำหรับพิธีแต่งงานหายไป โดยจากคำบอกเล่าของหลานพบว่า ฝ่ายหญิงเข้ามาที่คอนโดฯ ของเธอ อ้างว่ามาเอาของที่ฝากไว้ แต่กลับเอาทรัพย์สินของเธอไปด้วย โดยผู้เสียหายไปแจ้งความเอาผิดข้อหาลักทรัพย์ไว้แล้ว และตอนนี้ติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้

สำหรับทรัพย์สินที่หายไปนั้น ได้แก่ ทองคำแท่งหนัก 10 บาท 10 แท่ง, สร้อยคอทองคำ 5 บาท 2 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 5 บาท 1 เส้น, สร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท 1 เส้น, พระเลี่ยมทอง 2 บาท 1 องค์ และเงิน 600,000 บาท รวมมูลค่า 5.7 ล้านบาท โดยผู้เสียหายระบุว่า ผู้ที่ขึ้นมาเอาของไปนั้น ยังทิ้งกระเป๋าไว้บนเตียงในห้อง ตั้งแต่ 18 สิงหาคม โดยในกระเป๋ามีนาฬิกาแบรนด์หรู 2 เรือนด้วย

ขณะที่ในสื่อโซเชียลยังมีเผยแพร่เอกสารรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีของ สน.พระโขนง มีการบันทึกลงวันที่ 20 ตุลาคม ข้อความโดยสรุปว่า น.ส.ธณัฎฐา อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เดินทางมายัง สน.พระโขนง แจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและสามี ซึ่งพักที่คอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 101 ก่อนย้ายไปพักย่านพุทธมณฑล เพราะทำงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่สามีจะไปพักที่คอนโดฯ นี้เป็นประจำ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เวลาประมาณ 14.00 น. ได้ใช้ให้หลานเข้ามาเอาของที่ห้องพัก เมื่อหลานไปถึงและออกจากลิฟต์สังเกตเห็นผู้ต้องหาในคดีนี้ใช้กุญแจและคีย์การ์ดเข้าไปในห้อง จึงโทรแจ้งให้ตนทราบ ตนเองจึงรีบเดินทางมาจากนครปฐมเข้าไปตรวจสอบทรัพย์ที่เก็บไว้ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าทั้ง 6 รายการหายไป จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ


ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์จึงสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผู้กำกับการ สน.พระโขนง ซึ่ง พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ระบุว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเรื่องนี้จริง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม แต่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมผู้เสียหายไปออกรายการดังและพูดถึงประเด็นนี้ ซึ่งรายละเอียดความเสียหายที่ผู้เสียหายเคยให้ไว้กับตำรวจในวันแจ้งความ มีข้อมูลน้อยกว่าที่ไปพูดในรายการดัง ซึ่งตอนนี้ตำรวจติดต่อผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้เข้ามาให้การ โดยหลังจากนี้จะเรียกตัวพยานในเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย ส่วนการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำจะต้องเป็นขั้นตอนหลังจากสอบผู้เสียหายเสร็จแล้ว เบื้องต้นตำรวจเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดในห้องพักไปตรวจสอบ ล่าสุด มีรายงานว่าตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบคอนโดฯ ที่เกิดเหตุแล้ว

ที่ สน.พระโขนง เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา น.ส.ธณัฏฐา ผู้เสียหาย ได้เข้ามาให้สอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว และยังนำของกลางที่ผู้ถูกกล่าวหาทิ้งไว้ในห้องคอนโดฯ ในวันเกิดเหตุมาด้วย ประกอบด้วย นาฬิกาหรูยี่ห้อปาเต๊ะ ฟิลลิปส์ 2 เรือน กระเป๋าสะพาย และเอกสารต่างๆ ของผู้ถูกกล่าวหาหลายรายการ

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ประสานมาให้ร่วมตรวจสอบหลักฐานในคดี เปิดเผยว่า ผู้ถูกกล่าวหาทิ้งหลักฐานไว้ในห้องที่เกิดเหตุหลายรายการ ซึ่งได้ตรวจลายนิ้วมือแฝงไว้หมดแล้ว และจะไปตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ รวมถึงภาพจากวงจรปิดในคอนโดฯ ที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก