ผบ.ตร.สั่งระดมค้นทั่วประเทศ จับผู้ต้องหา “คดีตากใบ”

กทม. 24 ต.ค.-ผบ.ตร.สั่งระดมตำรวจค้น 5 จุด ทั่วประเทศ จับผู้ต้องหา “คดีตากใบ” ทำงานจนวันสุดท้าย ก่อนคดีหมดอายุความ 1 วัน

กรณีเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ เจ้าหน้าที่ได้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกกักตัวผู้ชุมนุมประท้วงเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมจำนวนมากเดินทางด้วยรถบรรทุกของข้าราชการทหารและตำรวจจากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไปควบคุมที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ปรากฏว่ารถบรรทุกบางคันมีผู้เสียชีวิตรวม 78 ราย และผลการชันสูตรพลิกศพ พบว่าสาเหตุการเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานนั้น


วันที่ 24 ตุลาคม 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการตำรวจทั่วประเทศ โดยในส่วน บช.น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.ระดมกำลังตรวจค้นในพื้นที่ กทม. และประสานฝ่ายสืบสวน บช.ภ.4, 5, 7 ร่วมเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจนวันสุดท้ายก่อนคดีหมดอายุความในอีก 1 วัน โดยทำการตรวจค้นทั้งหมด 5 จุดทั่วประเทศผลการจับกุมมีดังนี้

โดยจุดแรก ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4 ร่วมกับสภ.หนองกุงศรี ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เลขที่ ค.630/2567 เข้าค้นบ้านเลขที่ 74 ม.7 ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เพื่อจับกุมตัว ร.ท.วิสณุกรณ์ ชัยสาร ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดปัตตานีที่ จ.524/2567 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น (คดีชุมนุมตากใบ) จากผลการตรวจค้น ไม่พบตัวบุคคลตามหมายจับ พบนายหนูจันทร์ ชัยสาร บิดาของผู้ต้องหา ให้การว่า ร.ท.วิสณุกรณ์ ได้ออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้แล้วประมาณเดือนที่แล้ว โดยไม่บอกว่าไปที่ไหนซึ่งทางครอบครัวก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงไม่รู้แหล่งที่ใช้หลบซ่อน


จุดที่ 2 ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5 พร้อมด้วย ตำรวจ สภ.แม่สรวย จว.เชียงรายนำกำลังกว่า 10 นาย นำหมายค้นศาลแขวงเวียงป่าเป้า ที่ ค.163/2567 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2567 เข้าค้นบ้านเลขที่ 195 ม.10 ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เพื่อจับกุมตัว พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพ็ชร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.513/2567 ลงวันที่ 30 กันยายน 2567 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น” จากการตรวจค้นไม่พบตัวผู้ต้องหา จึงได้สอบผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้การว่า เคยพบเห็นบุคคลตามหมายจับ (เจ้าบ้าน) พักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว แต่ในปัจจุบันบ้านหลังนี้ไม่มีผู้พักอาศัยมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปี

ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5 อีก 1 ชุดนำกำลังเข้าตรวจค้นจุดที่ 3 หมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ค.477/2567 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2567 เข้าค้นบ้านเลขที่ 225/26 ม.13 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เพื่อจับกุมตัว นาย ศิวะ แสงมณี บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 167/2567 ลงวันที่ 12 กันยายน 2567 ในข้อหา กระทำความผิด ความผิดต่อชีวิต พยายาม ความผิดต่อเสรีภาพ เบื้องต้นไม่พบตัวผู้ต้องหารายดังกล่าว

จุดที่ 4 ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.7 นำหมายค้นของศาลจังหวัดนครปฐม ที่ ค.729/2567 ลงวันที่ 21 ต.ค. 67 ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 54/12 ม.5 ต.หอมเกร็ด อ.สามพราน จ.นครปฐม จากการตรวจค้นไม่พบตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ และ จุดสุดท้ายตำรวจได้นำหมายค้นศาลจังหวัดหัวหินที่ 246 / 2567 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 240 ม.7 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหินจ.ประจวบคีรีขันธ์ พบนางวรนุช เรืองจ้อย แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและนำตรวจค้น ทั้งนี้ผลการตรวจค้นไม่พบ เรือโทวิสณุกรณ์ ชัยสาร บุคคลตามหมายจับและสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด.-419.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]