กรุงเทพฯ 17 ต.ค. – ศปช. เตือน 3 วันนี้ (19-21 ต.ค. 67) มวลอากาศเย็นจากจีนพัดลงไทยจะส่งผลอากาศแปรปรวน อาจจะเกิดฝนตกในภาคเหนือและอีสานอีกรอบ ชี้แม้สถานการณ์ภาพรวมอุทกภัยคลี่คลายแล้ว แต่ในหลายพื้นที่ยังต้องเฝ้าระวังผลกระทบที่เกิดจากฝนตกในระยะนี้
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช.ส่วนหน้า เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุม ศปช. ได้สรุปสาระสำคัญโดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) แจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวัง อาจมีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังจากฝนตกสะสมในพื้นที่ลุ่มต่ำและเขตเมือง โดยพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษในพื้นที่ภาคกลาง ที่ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม กรุงเทพฯ และปริมณฑล พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง, ภาคตะวันออก ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และภาคใต้ ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร รวมทั้งประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง ในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) ไปจนถึงวันอังคารที่ 22 ตุลาคม ซึ่งช่วงดังกล่าวจะมีน้ำทะเลหนุนสูง
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ได้ออกเตือนประชาชนว่าประเทศไทยจะมีอากาศแปรปรวน ช่วงวันที่ 19-21 ตุลาคมนี้ เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน อาจทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และหลังวันอังคารที่ 22 ตุลาคมนี้ จะมีอากาศเย็นลงอีก
นายจิรายุ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า ได้สรุปการฟื้นฟูบ้านเรือนและถนนในชุมชนแล้ว 96% ซึ่งในพื้นที่หัวฝายถึงตลาดสายลมจอย ฟื้นฟูแล้วกว่า 94% ชุมชนเกาะทราย ฟื้นฟูแล้ว 93% ชุมชนไม้ลุงขน ฟื้นฟูแล้ว 93% ส่วนชุมชนเหมืองแดงและชุมชนปิยะพร ฟื้นฟูครบหมดแล้ว (ข้อมูล ณ 16 ต.ค. 67) คาดว่าทุกชุมชน ทุกหลังคาเรือน จะดำเนินการได้แล้วเสร็จ ก่อนกำหนดการเดิม สิ้นเดือนตุลาคม ตามแผน ภายในวันที่ 21 ตุลาคมนี้
ขณะเดียวกันเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับเข้าพักอาศัยในบ้านเรือน หรือเปิดประกอบกิจการได้โดยเร็ว ปลอดภัย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการให้จัดส่งทีมช่างที่มีความเชี่ยวชาญด้านไฟฟ้า ลงพื้นที่ อ.แม่สาย เพื่อให้บริการตรวจเช็กระบบไฟฟ้า รวมทั้งเดินระบบไฟฟ้าให้ใหม่ โดยไม่คิดค่าแรง ระยะแรกดำเนินการในพื้นที่ อ.แม่สาย ก่อนทยอยให้บริการในอำเภออื่นต่อไป
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่สาย ในระยะยาว วันนี้ (17 ต.ค. 67) มีการประชุมคณะอนุกรรมการดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิในการเดินเรือ การใช้น้ำอย่างเป็นธรรม การบำรุงรักษาและการอนุรักษ์ทางเดินปัจจุบันของน้ำในแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก โดยมีนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน ได้หารือถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขอุทกภัยในพื้นที่ มติที่ประชุมเห็นชอบตั้งคณะทำงานสำรวจพื้นที่ริมน้ำของแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก สำรวจครัวเรือนที่อาจได้รับผลกระทบ จัดทีมสร้างความเข้าใจเพื่อพิจารณาสร้างพนังกั้นน้ำตั้งแต่บริเวณสะพานมิตรภาพเเห่งที่ 2 ถึงถ้ำผาจม ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร และจะนำมติที่ประชุม เสนอต่อคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา เกี่ยวกับเขตแดนคงที่ช่วงแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก (ฝ่ายไทย) ที่จะประชุมในเดือนธันวาคมนี้.-319-สำนักข่าวไทย