“โรม” มอง “ภูมิใจไทย” ชี้นำทุกอย่างในรัฐบาล

รัฐสภา 8 ต.ค. –“โรม” งง พรรคไหนเป็นแกนนำรัฐบาลกันแน่ หลังมีกระแส “เนวิน” ควง “อนุทิน” ดอดพบ “ทักษิณ” มอง “ภูมิใจไทย” ชี้นำทุกอย่างในรัฐบาล จวกสูตร “นายกฯ คนละครึ่ง” ผลัดกันเล่นเป็น “เก้าอี้ดนตรี” พร้อมฝากถึง “ณัฐวุฒิ” ถูกตั้งเป็นที่ปรึกษาแล้ว แนะนำรัฐบาลไปในทางที่ถูกด้วย บอกหลายคนรอ “นิรโทษกรรม” อยู่


นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่นายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์สองหล้า ว่า ตอนนี้เราเองก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่หากเป็นความจริง มันก็คงสะท้อนการเมืองหลายอย่าง อย่างแรก ก่อนหน้านี้ นายเนวินเคยพูดในทำนองว่าอยากให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในวันนี้เป็นช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร การพูดในทำนองนี้ยอมรับว่ามันอาจจะสะท้อนถึงความไม่เป็นเอกภาพทางการเมือง เราจะเห็นว่าบทบาทของพรรคภูมิใจไทยเป็นบทบาทที่ชี้นำหลายอย่างของการเมืองฝั่งรัฐบาลอยู่มาก

“จนตอนนี้เราเริ่มไม่แน่ใจว่าใครคือพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำ แล้วที่เหลือเป็นอาจเป็นพรรคร่วม เราบอกได้ว่าตอนนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแกนนำตัวจริง เพราะการตัดสินใจหลายๆ อย่าง การพลิกไปพลิกมาที่เราเห็นของฝั่งรัฐบาล ล้วนถูกชี้นำโดยพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น ถ้าเรามองในประวัติศาสตร์อาจจะพบว่าคุณเนวินกับคุณทักษิณ ก็เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและมีความขัดแย้งกันมา วันนี้ก็ต้องกลับมาร่วมกันอีก อาจจะด้วยเหตุผลทางการเมือง เขาถึงบอกว่าประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยกันได้ เราก็ไม่รู้ว่าจะซ้ำรอยไหน รอยร่วมทุกข์ร่วมสุขหรือรอยที่มันจบแล้วครับนาย เราก็ไม่ทราบ” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เราจะเห็นว่าบทบาทของพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ชี้นำทางการเมือง เช่น รัฐธรรมนูญ เหล่านี้ล้วนเกิดจากพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น ดังนั้น เสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลที่มันไม่แน่นอน ต้องยอมรับว่ามันเกิดจากการที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างแท้จริง ต่อให้มีนายทักษินเป็นกาวใจ ก็อาจจะไม่แก้ปัญหาอะไร สุดท้าย ความฝันของนายเนวินจะเป็นจริงหรือไม่ก็คงต้องติดตามก็ดูต่อไป

เมื่อถามว่าหลังจากมีการพบกันได้มีกระแสนายกฯคนละครึ่ง นายรังสิมันต์ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแบ่งคนละครึ่ง แบบนี้มันไม่สมควร เพราะสำคัญที่สุดคือประโยชน์ของประชาชน การที่เราต้องมาแบ่งคนละครึ่ง ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิด การเมืองที่เราอยากเห็นคือการเมืองที่มีเสถียรภาพ มันไม่ใช่เก้าอี้ดนตรี ที่จะมาผลัดกันนั่งผลัดกันเล่น การเมืองที่เราอยากเห็นคือการเมืองที่ตรงไปตรงมา การผลัดกันในลักษณะนี้ แม้อยู่ในฝั่งพรรคร่วมเดียวกัน ไม่มีทางที่การเมืองจะมีเสถียรภาพได้ ถ้าคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ อย่าทำให้ตำแหน่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นเก้าอี้ดนตรี

เมื่อถามว่าการพบกันครั้งนี้ เป็นการดีลแผนทางการเมืองหรือไม่ เพราะล่าสุด นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐก็ไปยื่นร้องสอบนางสาวแพทองธาร กรณีแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีคดีทางการเมือง ซึ่งอาจจะซ้ำรอยจริยธรรมเหมือนนายเศรษฐา นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น และยังไม่เคยเห็นกรณีที่นายกรัฐมนตรี จะต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะตั้งที่ปรึกษา ตนไม่ทราบว่าผลของการร้องจะเป็นอย่างไร ส่วนจุดยืนของตนและพรรคประชาชน ไม่สนับสนุนการทำนิติสงคราม เรามองว่าวิถีทางการเมืองก็ปล่อยให้มันดำเนินการไปโดยวิธีการทางการเมือง


“ในช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้วพบว่าการใช้นิติสงครามทำให้การเมืองไม่ไปไหน เราเอง ในฐานะพรรคประชาชนก็เป็นเหยื่อ หลายพรรคการเมืองก็เป็นเหยื่อ จริงๆพรรคการเมืองที่เป็นเหยื่อควรจะร่วมมือกันในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้แล้ว แต่แน่นอน พอถึงสถานการณ์จริง หลายคนก็อาจจะมองว่าจากนี้เป็นตาของผม จังหวะนี้เป็นความซวยของเอ็ง กลายเป็นว่าการเมืองหาทางออกไม่ได้” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายณัฐวุฒิเอง เป็นอดีตนักสู้ผ่านมาหลายสมรภูมิ วันนี้เรารอคอยในเรื่องความยุติธรรมจากรัฐบาลนี้มากมายหลายเรื่อง เช่น การนิรโทษกรรม

“ผมเองก็หวังว่าพี่เต้น จะใช้โอกาสนี้ในการที่ได้นั่งเป็นที่ปรึกษาช่วยแนะนำนายกฯ หน่อย ว่าเรื่องนิรโทษกรรม มันควรจะมีทางออกได้แล้ว มีคนจำนวนมากเห็นคุณณัฐวุฒิเป็นไอดอล คาดหวังว่ารัฐบาลนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเรื่องยุติธรรมได้ รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลมา 1 ปีกว่าแล้ว ควรจะมีคำตอบให้ประชาชน อย่าให้ต้องสับสนมึนงง” นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนจะเป็นการตั้งตำแหน่งต่างตอบแทนหรือไม่ นายรังสิมันต์ ระบุว่า ตนยังไม่อยากวิเคราะห์ขนาดนั้น เอาเป็นว่ามาตั้งแล้ว ตนก็รอคอยว่านายณัฐวุฒิจะใช้ความรู้ความสามารถในการแนะนำรัฐบาลไปในทางที่ถูกต้อง.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก