“ศิริกัญญา” อัดไพ่ในมือรัฐบาลไม่อัศจรรย์จน “ทรัมป์” อยากได้

รัฐสภา 9 เม.ย.-“ศิริกัญญา” อัดไพ่ในมือรัฐบาล ไม่อัศจรรย์จน “ทรัมป์” อยากได้ เย้ย USTR ยังรับสายก็ประหลาดใจแล้ว เหตุไทยส่งอุยกูร์-จับนักวิชาการสหรัฐ แนะต้องออกมาตรการดูแลคนในประเทศด้วย ไฟเขียวบอกกู้เลย ถ้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม โดยสมาชิกได้อภิปรายญัตติด่วนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขึ้นภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา


น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวพรรคประชาชน เสนอหลักการว่า การขึ้นภาษีส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก เฉพาะที่กระทบกับประเทศไทย มีความลึก กว้าง และยาว ผลกระทบครั้งนี้มันลึกเพราะ การประกาศขึ้นภาษีสูงสุดในรอบร้อยกว่าปี หนักหนายิ่งกว่ายุคเศรษฐกิจตกต่ำ ในปี 1929 ที่เรียกว่า Great Depression ซึ่งเริ่มมาจากการขึ้นภาษีและตอบโต้กันไปมา จนเกิดผลกระทบแก่ใจเป็นวงกว้างทั่วโลก สินค้าถูกจากทุกทิศทุกทางจะไหลเข้ามาในประเทศไทย ส่งออกได้น้อยลง ท่องเที่ยวก็อาจน้อยลง กำลังซื้อในประเทศที่ตอนนี้ก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ก็จะย่ำแย่ไปอีก

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มักจะแสดงสินค้าที่ได้รับผลกระทบแบบหยาบๆ ซึ่งสินค้าเหล่านี้มีแรงงานอยู่จำนวนมาก กินพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมตั้งแต่สงขลา หาดใหญ่ ชลบุรี ระยอง โคราช อยุธยา ขึ้นไปจนถึงลำพูน ที่ภาคเหนือ SMEs ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานถึงไม่ได้ส่งออก แต่ก็ได้รับผลกระทบ เราคงต้องอยู่ในระเบียบโลกใหม่ที่สหรัฐฯได้สร้างขึ้นมาอีกสักระยะ สิ่งที่เราเผชิญอยู่เป็นแค่ศึกแรกเท่านั้น กระบวนการเจรจาก็ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ตอนนี้สหรัฐอเมริกาบอกว่ามีกว่า 70 ประเทศต่อคิวเข้าพบ อาจจะต้องเจอกับลูกหลงที่ประเทศไทยต้องเจอหางเลขไปด้วย มันหนักขึ้นทุกวัน ถามว่ากระทบกับเราหรือไม่ การที่เขาตอบโต้กันไปมากระทบกันแน่ เพราะเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชนในการผลิตสินค้าจีนเรียบร้อยแล้ว ถ้าสินค้านั้นต้องส่งไปขายที่สหรัฐก็ต้องเจอผลกระทบที่ตอบโต้กันไปมาแน่ ไม่ลดคำสั่งซื้อก็เลิกซื้อ กระทบมาถึงผู้ผลิตไทยแน่ ยอดขายหายทันที


น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องนี้ด้วยคำ 3 คำ ได้แก่ รู้เขารู้เรา เร็ว และแม่นยำ ขณะที่วันก่อนหน้านี้ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรายังดูท่าที ไม่รีบ ตกลงว่าจะเร็วหรือรอ ไปตกลงกันให้เรียบร้อย พร้อมฝากถึงนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะไปคุยกับเกษตรกรอเมริกา ควรไปคุยกับเกษตรกรไทยก่อน รวมถึงหากเล็งช่องทางการร่วมลงทุนท่อก๊าซในอลาสก้า ได้หารือกับประเทศอื่นที่ใช้ช่องทางนี้แล้วหรือยัง เรื่องเครื่องบินหรืออาวุธยุทธโธปกรณ์ก็ไม่ได้อยู่ในเรื่องที่นายพิชัยแถลงเมื่อวานนี้ จึงอยากสอบถามว่าวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาหรือไม่

“สิ่งที่อยู่บนโต๊ะเจรจาไพ่ที่เราจะไปคุยกับเขา มันไม่ได้ให้ความความรู้สึกถึงความ Phenomenal อย่างที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ ใหญ่เบิ้ม อัศจรรย์อย่างที่ทำต้องการ เป็นไปตามที่นายศุภวุฒิ เคยพูดไว้ ว่าเราไม่มีอะไร Phenomenal อย่างที่ทำต้องการ แถมแต้มต่อที่เคยมีก็หายไปทุกวันๆ“ น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เราส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน ทำให้มิตรกลายเป็นอื่น เหตุการณ์ยังเลวร้ายไปอีกเมื่อมีการแจ้งจับนักวิชาการอาจารย์พอล แชมเบอร์ส ด้วยข้อหา มี.112 และ พ.ร.บ.คอม ถ้าผู้แทนการค้าสหรัฐ ยังรับสายไทยอยู่ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมาก ตนยังสงสัยว่า เขายังจะเจรจากับเราหลังจากนี้เรื่องนี้อยู่หรือไม่ แม้ประเทศอื่นบางประเทศไม่ได้ใช้วิธีการเชิงรุก แต่เขาก็เตรียมการอย่างตรงไปตรงมา เช่นสิงคโปร์ เกาหลีใต้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเยียวยา พยุง กระตุ้น ฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ สิ่งสำคัญคืออยากให้รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจกับเอกชนที่เตรียมโยกย้ายฐานการผลิตกลับไปอเมริกา


ทั้งนี้ น.ส.ศิริกัญญา เรียกร้องให้ รัฐบาลขยายเพดานหนี้สาธารณะ เชื่อว่า สส.ก็เห็นด้วย ถ้าไม่ได้กู้เงินมาแจกสะเปะสะปะอย่างที่ผ่านมา ฟื้นฟูประเทศ ในระยะสั้นและระยะยาว

“กู้เลยค่ะ ถ้าต้องการนำเงินมาเยียวยาภาคธุรกิจอุตสาหกรรม แรงงานที่ได้รับผลกระทบ กู้ได้ ถ้าท่านจะใช้งบประมาณเพื่อเดินหน้าปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย ดิฉันคิดว่าไม่มีโอกาสไหนที่ใหญ่กว่าโอกาสนี้ ในการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ฟื้นฟูเศรษฐกิจฟื้นฟูประเทศ” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาศึกษาและติดตามมาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และเสนอแนวทางให้รัฐบาลไปดำเนินการ ว่า การประกาศขึ้นภาษีของสหรัฐฯได้กำหนดกติกาการค้าโลกใหม่ แต่ความจริงความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐฯ เก่าแก่มาก จะครบ 200 ปีแล้ว

“เราฝึกคอบร้าโกลด์ทุกปี ในสงครามเกาหลี ประเทศไทยไม่ได้ริเริ่มสงครามก็ไปช่วยสหรัฐฯ สงครามเวียดนามก็ไปช่วยรบ เรารักอเมริกา แม้ขนาดรายการอาหารบางอัน ถ้าเรากินข้าวผัดอเมกัน มีที่ร้อยเอ็ดแต่ไม่มีลอสแองเจอลิส”นายนพดล กล่าว

ทั้งนี้ นายนพดล กล่าวว่า การที่สหรัฐฯมีมาตรการขึ้นภาษีสินค้าของไทยที่ส่งไปขายในสหรัฐอเมริกา 36% ต้องยอมรับว่าเกินความคาดหมาย ซึ่งเหตุผลเบื้องหลังที่สหรัฐฯขึ้นภาษีทั่วโลก เราวิเคราะห์กันว่า 1.การขึ้นภาษีเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และหวังว่า รายได้จากภาษีนำเข้าจากประเทศต่างๆจะทำให้สหรัฐทำงบสมดุลได้ 2.สหรัฐต้องการดึงผู้ประกอบการ ผู้ผลิตกลับไปยังสหรัฐ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ 3.ต้องการรักษาฐานการเมืองของพรรครีพับลีกัน ซึ่งสินค้าเกษตร และ การสร้างงานและรักษาอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์จึงจำเป็นต้องรักษาไว้ 4.ตอนนี้ทุกประเทศมุ่งไปสู่การเจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯอาจจะมีความสุข หรือชอบที่ประเทศอื่นๆไปเจรจาด้วย

นายนพดล กล่าวว่า การที่เราทราบถึงเหตุผลการขึ้นภาษีของสหรัฐฯครั้งนี้ จะทำให้เราจ่ายยาให้ตรงกับโรค พร้อมกับยืนยัน รัฐบาลไทยรู้ปัญหาและมีแนวทางแก้ไขปัญหา โดยไม่ได้ล่าช้าอย่างที่หลายคนคิด โดยเมื่อรัฐบาลทราบว่า นายโดนัล ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ นายนพดล เสนอให้รัฐบาลใช้แนวทางเจรจาไม่ชักช้า รวดเร็วและรอบคอบ ส่วนที่กล่าวหาว่า รัฐบาลไม่มีแนวทางและไม่ได้ดำเนินการใดๆ ซึ่งในฐานะที่เคยเป็นรมว.ต่างประเทศ และเคยเจรจาระหว่างประเทศ หลายเรื่องไม่สามารถเปิดเผยก่อนได้

สำหรับยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการเจรจานั้น นายนพดล กล่าวว่า การเจรจาไม่สามารถสำเร็จได้ภายในวันเดียว เพราะการเจรจามีหลายระดับต้องใช้เวลา และยุทธศาสตร์ใหญ่ที่ใช้ต้อง win-win ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก

ทั้งนี้ นายนพดล กล่าวถึง 5 ประเด็นหลักที่รัฐบาลจะนำไปเจรจา ว่า ประเด็นแรก ไทยต้องรักษาความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนกับสหรัฐฯ ซึ่งตนเห็นด้วยกับความเป็นหุ้นส่วนในเรื่องของอาหารและอุตสาหกรรมในอนาคต ที่จะมีการนำวัตถุดิบจากสหรัฐฯและนำมาแปรรูป ประเด็นที่ 2.การลดภาษีและการลดอุปสรรคทางการค้า ซึ่งภาษีที่สูงมากเช่น ผลไม้ หรือ การลดข้อกีดกันทางการค้าทำให้ตลาดเปิดมากขึ้น ประเด็นที่ 3.เราต้องลดการขาดดุลระหว่างไทยกับสหรัฐฯให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ตราบใดไม่กระทบกับเศรษฐกิจของไทย โดยไทยจะมีการนำเข้าพลังงาน สินค้าเกษตร และเครื่องบินจากสหรัฐฯมากขึ้น

ประเด็นที่ 4. การตรวจสอบคัดกรองสินค้าป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ จากประเทศอื่นๆ ซึ่งเรื่องนี้มีประมาณ 49 รายการสินค้า จะสามารถจัดการสินค้านี้ได้อย่างไร และให้สินค้าผลิตจากประเทศได้อย่างแท้จริงได้อย่างไร

ประเด็นที่ 5. การส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ ซึ่งได้ยินมาว่า จะมีการไปลงทุนในท่อแก๊ส หรือท่อน้ำมันในอลาสก้าของบริษัทพลังงานชั้นนำของประเทศไทย เป็นต้น ถือเป็นการแสดงความจริงใจในการที่เราไม่เอาเปรียบเขาและมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน

นายนพดล กล่าวว่า ภายใต้แนวทาง 5 ข้อเชื่อว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ลดต้นทุนราคาสินค้า รักษาผลประโยชน์ระหว่างสหรัฐฯให้เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจต่อไป

สำหรับการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในระยะสั้น นายนพดล กล่าวว่า เห็นด้วยกับรัฐบาลที่จะมีการส่งเสริมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ส่งออก และมีสินเชื่อให้กับผู้ส่งออกที่จะไปหาตลาดใหม่ และมีสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการไปลงทุนในต่างประเทศ

นอกจากนี้ นายนพดล ฝากข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลว่า อยากให้รัฐบาลจริงจังในการเปิดหาตลาดใหม่ และการปรับโครงสร้างการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อยากให้มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เช่น มหาอำนาจด้านอาหาร “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ต้องทำให้เกิดขึ้นจริง.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบ รร.ประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ

ขอนแก่น 17 ส.ค.- กองปราบจ่อประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” เชื่อเจ้าตัวไม่หนี ขณะที่ทนายวัดพระบาทน้ำพุเลื่อนแถลงข่าว อ้างเอกสารชี้แจงยังไม่เรียบร้อย ตรวจสอบโรงเรียนประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ กรณีเพจดังตั้งข้อสงสัยวุฒิการศึกษาพระอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อ้างว่าปี 2518 ยังเรียน มศ.2 จะจบวิศวฯ ปี 2519 ได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ให้ข้อมูลว่ากรณีพระอลงกต ระบุว่าจบการศึกษาที่โรงเรียนระดับประถม(นันทวิทยาลัย) ปรากฏว่าไม่มีชื่อโรงเรียนนี้อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตของพื้นที่ทั้ง 26 อำเภอ ใน จ.ขอนแก่น หรือถ้ามี ก็อาจจะปิดตัวไปแล้ว   ส่วนระดับมัธยมศึกษานั้น ข้อมูลยืนยันว่า พระอลงกต ศึกษาจบระดับชั้น มศ.2 ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่นจริง มีศิษย์เก่าทั้งระดับชั้นเดียวกัน และรุ่นพี่รุ่นน้องต่างยืนยันว่า พระอลงกต จบจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยจริง ในปี 2518 แต่ยังสงสัยในระดับปริญญาตรีว่าจะจบจริงหรือไม่   เชื่อ “หมอบี” ยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ […]

รวบแล้ว “ลุงคลั่ง” ใช้ไม้หน้าสามตีหลานสาวดับ

ตรัง 17 ส.ค.- ตำรวจ สภ.ห้วยยอด รวบลุงคลั่งใช้ไม้หน้าสามฟาดหลานสาวแท้ๆ เสียชีวิตคาบ้านพัก สารภาพอ้างแค้นใจสะสมมานาน มีปากเสียงบ่อยครั้ง ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง คุมตัวนายสุริยัณห์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ไม้หน้าสาม กระหน่ำตี น.ส.ปาริชาติ หรือน้องเชียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก จากนั้นหลบหนีขึ้นไปบนเขา คลองมวน  ต.หนองปรือ อ.รัษฎา เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมภูเขา ก่อนจับกุมตัวได้พร้อมของกลางไม้หน้าสามเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร  สอบสวนนายสุริยัณห์ รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่ามีปัญหากับหลานสาวมานาน มักมีปากเสียงบ่อยครั้ง วันเกิดเหตุได้บุกเข้าไปในห้อง ใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ท้ายทอยของหลานสาว 6–7 ครั้งจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีออกจากบ้าน ผู้ต้องหาระบุว่า เคยทำงานเป็นช่างสักตามเกาะท่องเที่ยว เช่น เกาะพะงัน และเกาะพีพี แต่มีปัญหาจึงกลับมาอยู่บ้าน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกส่งตัวเข้าบำบัดหลายครั้ง ขณะถูกสอบสวนยังสามารถโต้ตอบคำถามได้ปกติ แต่ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป สำหรับศพของ “น้องเชียร์” ล่าสุด […]

ตร.เข้มปราบแข่งรถบนทางด่วน เร่งสอบเหตุรถชน 11 คัน

17 ส.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำปราบปรามแข่งรถในทางอย่างเข้มงวด กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน 11 คัน บนทางด่วนศรีรัช–อุดรรัถยา เร่งตรวจสอบ พบความผิดใด ดำเนินคดีทุกกรณี วันนี้ (17 สิงหาคม 2568) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร และหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน บนทางด่วนศรีรัช – อุดรรัถยา ขาออก มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยการทางพิเศษเร่งเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์เสียหายรวมทั้งสิ้น 11 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้งหมด ผลการตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการขับรถด้วยความประมาท […]

สัปดาห์หน้าถกคดี “หมอบี” รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หนี

17 ส.ค.- กองปราบเตรียมประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” สัปดาห์หน้า รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อโกง กรณีเปิดรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการของวัดพระบาทน้ำพุ ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า คณะทำงานจะมีการเรียกประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้ลงไปติดตามในพื้นที่ จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเทียบเคียงและพิจารณาว่า พฤติการณ์ของนายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่ามีความคืบหน้าไปมาก คงเหลือพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลบหนีไปนั้น พ.ต.อ.เอนก บอกว่า เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครหลบหนี มีรายงานข่าวว่า กรณีดังกล่าวหากนายเสกสันน์ หรือผู้เกี่ยวข้องมีการหลบหนีจริง ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้เจ้าตัวยังไม่ถูกดำเนินคดี รวมถึงไม่ถือเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทำให้ตำรวจไม่สามารถขออายัด หรือมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันคณะทำงาน โดยเฉพาะกองบังคับการปราบปราม อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับในกรณีที่พบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด.-419-สำนักข่าวไทย