คุมเข้มลักลอบค้าสัตว์ป่าหวังไทยขยับสถานะดีขึ้น

สุวรรณภูมิ 7 ก.ย.-ทุกภาคส่วนร่วมมือสกัดกั้นลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตสต่อเนื่อง หลังจากปีที่ผ่านมาไทยได้รับการยอมรับในเวทีโลกและเลื่อนสถานะขึ้นมาในอันดับดีขึ้น


นายวิจารณ์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดกิจกรรม”รณรงค์การป้องกันลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา” เพื่อเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่า ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  เนื่องจากเป็นช่องทางที่ผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าใช้ในการนำสินค้าผ่านไปยังประเทศต่างๆในเอเชีย โดยส่วนใหญ่จุดหมายปลายทางไปยังประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นประเทศผู้บริโภครายใหญ่ , การตรวจยึดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นการลักลอบค้าสัตว์ป่ารายใหญ่และมีมูลค่าสูง โดยสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่าและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายที่ตรวจยึดได้ ได้แก่เกล็ดลิ่น นอแรดงาช้างและผลิตภัณฑ์ เต่าหายาก ลิงและสัตว์เลี้ยงที่เป็นสัตว์แปลกหายาก 


สำหรับสถิติการตรวจยึดของด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ปี 2560 รวม 15 คดี เป็นเกล็ดลิ่นน้ำหนัก 1,066 กิโลกรัม , งาช้างแอฟริกา 422 ท่อน น้ำหนัก 330 กิโลกรัม , นอแรด 21 นอ , ลิงมาโมเสท 11 ตัว , งาช้างน้ำหนัก 73.9 กิโลกรัม และสัตว์แปลกประเภทเต่ากิ้งก่า งูรวม  117 ตัว


ขณะที่ภาพรวมสถิติทางคดีของการจับผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาของด่านตรวจทั้ง 40 แห่งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง23 กรกฎาคม 2560 ตรวจจับได้ของกลางแยกเป็น ตัวลิ่น127 ,เกล็ดลิ่น  1,093กิโลกรัม/นอแรด 21 นอ , งาช้างแอฟริกา 423 ท่อน และซากฟันช้าง 1 กิโลกรัม

นายวิจารย์ กล่าวว่า จากมาตรการป้องกันและปราบปรามที่เข้มงวดของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ ที่ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมจากเวทีการประชุมสุดยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ณ นครโจฮันเนสเบิร์ก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้เมื่อ 23 กันยายน 2559 โดยได้แสดงให้ที่ประชุมเห็นถึงความจริงใจของประเทศไทยว่าให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาอาชญากรรมด้านสัตว์ป่าและพืชป่าโดยถือเป็นเรื่องเร่งด่วนในระดับนโยบายของชาติและเป็นที่น่ายินดีว่าที่ผ่านมาไทยได้ถูกถอดออกจากรายชื่อประเทศ ซึ่งต้องทบทวนมาตรการการค้าที่สำคัญของม้าน้ำ และการเสนอของประเทศไทยที่ขอแก้คำอธิบายแนบท้ายของไม้พะยูงขึ้นบัญชีสองก็ผ่านการพิจารณา นอกจากนั้นประเทศไทยยังได้รับการเลื่อนสถานะที่ดีขึ้นจากกลุ่มสถานะน่ากังวลอย่างยิ่ง (primary concern) มาอยู่ในกลุ่มสถานะหน้ากังวลลำดับรอง(secondary concern) .-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่