ประธานวุฒิสภา ย้ำทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่เคยหลงตัวเอง

รัฐสภา 10 ก.ย.-ประธานวุฒิสภา ย้ำทำหน้าที่เป็นกลาง วางอุเบกขา ไม่เคยหลงตัวเอง เคลียร์ใจ สว. กรณีเบรกไม่ให้พูดในสภา เพราะกินเวลาคนอื่น ชี้คิดต่างไม่ถือว่าแตกแยก ถือเป็นความงดงาม ขณะ “เกรียงไกร” รับเป็นมือใหม่ ไม่สามารถทำให้ทุกคนถูกใจได้ ต้องยึดระเบียบ

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อม พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ร่วมเสวนาทิศทางการทำงานของประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา โดยมี สว. และสื่อมวลชนเข้าร่วม


ประธานวุฒิสภา กล่าวว่าตนไม่เคยเบื่อที่จะฟังสมาชิกวุฒิสภาพูด เพราะยิ่งฟัง ก็ยิ่งได้ความรู้ ซึ่ง สว. หลายคนเป็นคนที่มีความรู้ ในด้านต่างๆ บางครั้งมากกว่าตนด้วยซ้ำ และย้ำว่คนที่ทำหน้าที่เป็นประธาน สิ่งที่ต้องตระหนักเสมอคือต้องวางอุเบกขาให้ได้ ซึ่ง สว.แต่ละคนคิดได้ ไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน คิดต่างได้ ซึ่งการคิดต่างคือความงดงาม เสมือนดอกไม้ที่หลากหลายคิดต่างกับแตกแยกไม่เหมือนกัน ดังนั้นประธานต้องวางอุเบกขา คือต้องไม่โกรธไม่เกลียด รับได้และไม่หลงตัวเอง เพราะถ้าหลงก็จะใช้อำนาจเสมือนตัวเองเหนือกว่า ดังนั้น บางทีที่ต้องเบรคบางคนเวลาอภิปรายในสภา ก็ต้องขอโทษ และขอเรียนตรงๆว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็จะไม่เบรค ซึ่งบางทีสิ่งที่ สว.พูดเป็นประโยชน์ แต่ยาวมากเกินไป ไปกินเวลาคนอื่น จึงต้องเบรก ก็ต้องขออภัยด้วย พร้อม ระบุด้วยว่าสิ่งสำคัญในการอยู่ร่วมกัน คือต้องให้เกียรติและเมื่อถึงเวลาแล้วก็ต้องมาพูดคุยกัน ตนพร้อมที่จะพูดคุยไม่ใช่รวบอำนาจไว้ที่ตัวเอง หรือฟังแต่สิ่งที่ตัวเองอยากจะฟัง และถือว่าการได้มาพบกับ สว.และสื่อถือว่าเป็นบุญ ขอย้ำว่าศูนย์รวมของพวกเราคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความผาสุกของประชาชนชาวไทย ดังนั้นหากตนทำอะไรให้ไม่ถูกใจ หรือมีอะไร ก็สามารถตำหนิติเตียนได้ ยินดีน้อมรับ และจะทำให้ดีที่สุด

สำหรับเป้าหมายในการขับเคลื่อนภารกิจของวุฒิสภานั้น ประธานวุฒิสภา ย้ำว่าการทำงานยึดภารกิจของบ้านเมืองเป็นหลัก ส่วนเรื่องส่วนตัวเมื่อทำหน้าที่แล้วต้องตัดออก จะต้องยอมสละเวลา ทุ่มเทเวลา เพราะ มีคนอยู่สองวัยคือวัยหนึ่งเป็นวัย40-50 ปี เป็นคนร่วมสมัยมีประสบการณ์สูง และตนถือเป็นวัยสุดท้ายที่ทำอะไรไป ไม่มีข้อแก้ตัว ในสิ่งที่ผิดพลาดไปดังนั้นสิ่งที่จะต้องทำ จะต้องทำอย่างสุจริต คือเป้าหมายที่สำคัญที่สุด


พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา เริ่มต้นที่ระบุว่า ขอสันติสุขจงมีแก่พวกเราทุกคน พร้อมเล่าถึงบริบทของชีวิตที่เคยรับราชการมาตลอด 30 กว่าปี บทบาทกลับมาพลิกผันอีกครั้งของชีวิตคือ ได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ส่วนตัวไม่ได้ตั้งใจที่จะมาดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา เพียงแต่อยากเป็นสว.เพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และไม่อยากเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเหนือความคาดหมายที่มาอยู่ในบทบาทของรองประธานวุฒิสภาได้ทำหน้าที่ แต่เมื่อได้รับเลือกก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามที่ประธานวุฒิสภามอบหมาย แม้ว่าบางครั้งเพื่อนสมาชิกอาจไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ พวกเรามือใหม่หัดขับกันทั้งนั้น กฎระเบียบข้อบังคับก็ศึกษากันไป ย่อมมีข้อบกพร่องกันบ้าง แต่ระหว่างการทำหน้าที่ประธานก็ต้องยึดตามระเบียบข้อบังคับ ส่วนตัวตั้งใจฟังสมาชิก และได้ประโยชน์หลายอย่าง เพราะมาจาก 20 กลุ่มอาชีพ

“บางครั้งผมอยากอภิปรายบ้างเช่น นายแพทย์เปรมศักดิ์ พูดถึงเรื่องน้ำท่วมก็อยากพูดบ้าง แต่พูดไม่ได้ ตามบทบาทหน้าที่ หลังลงจากบัลลังก์ก็มาพรั่งพรูกับสมาชิก แต่ถือเป็นประสบการณ์ ทุกท่านสามารถมีคำติและคำชมได้ตลอด พร้อมรับฟังความเห็นต่าง 5 ปีจากนี้เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มทุนความรู้และจะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” พลเอกเกรียงไกร กล่าว

พลเอกเกรียงไกร ย้ำว่าวุฒิสภาจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อประชาชน เชื่อว่า สว.มีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานเพื่อประชาชนและเราถือเป็นส่วนหนึ่งของสภาแห่งนี้ อยากให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หากจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่ารักในสิ่งที่เขาเกลียด และอย่าเกลียดในสิ่งที่เขารัก ลงมือทำคือคำตอบ


ขณะที่ นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง กล่าวว่า ตนชินแล้ว พอได้เห็นหน้าค่าตาสื่อมวลชนประจำ กกต. เจอคำถามหนักๆ มาตั้งแต่เป็น กกต.แล้ว การให้สัมภาษณ์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตนมาเป็นรองประธานวุฒิสภา พวกเราต้องใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.ป. ข้อบังคับเดียวกัน การทำหน้าที่บนบัลลังก์ต้องระมัดระวังด้วย มีหลายครั้งที่ตนอยากจะพูดว่าบนบัลลังก์แต่พูดไม่ได้

“เรามือใหม่ด้วยกันทั้งหมด เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังนิดหนึ่งหรือแม้กระทั่งการรักษาเวลาในการพูดก็ต้องรักษา บางทีพูดจบแล้วหาทางลงไม่ได้บางทีการหารือก็ต้องเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนจริงๆ ไปกำชับท่านมาก ท่านก็หาว่าผมอีกเคร่งครัด ทำงานไปเรื่อยๆก็คงสนิทไปเรื่อยๆ ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ” นายบุญส่ง กล่าว

นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า สำหรับสื่อมวลชนคงไม่มีอะไรจะฝาก ตนฝากประเด็นให้ท่านขยายต่อเรื่องภารกิจด่วนของรัฐบาล ตนเห็นว่าหลายประเด็นเป็นประเด็นที่กระทบกระเทือนกับผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประเด็นแรกการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และการให้เช่าที่ดิน 99 ปี

“เป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส เราคงจะพูดกันอีกยาว ในการแถลงการณ์นโยบายของรัฐบาลพวกเราควรจะถาม พวกเราควรจะชี้ให้เห็นว่ามันไม่ชอบอย่างไร วุฒิสภาเราไม่ควรเห็นด้วย 99 ปี เราไม่ใช่เมืองขึ้น จะเอาแบบฮ่องกง มาเก๊า พวกเราไม่ใช่ ฝากสื่อนิดหนึ่ง ควรจะตั้งเป็นคำถามไว้ตอบสังคมและประชาชน” นายบุญส่ง กล่าว

นายบุญส่ง ย้ำกับสื่อมวลชนว่า ตนอยากทราบที่มาของวุฒิสภาชุดตน ควรจะปรับปรุงควรจะแก้ไขอย่างไรหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่รอประธานวุฒิสภาเดินเข้าห้องประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกับสื่อมวลชน ปรากฎว่าบริเวณที่สมาชิกวุฒิสภานั่งได้มีน้ำรั่วจากบริเวณฝ้าลงมาอย่างไม่ขาดสาย กระเด็นโดนสว.ที่นั่งใกล้เคียง ทำให้ สว.ต้องย้ายเก้าอี้หนีน้ำรั่วโดยทันที.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น