กรุงเทพฯ 5 ก.ย.-“แพทองธาร” ร้องโห หลังคนมองเป็น “ครม.สืบสันดาน” ชี้ใช้คำแรงไป มองความเป็นครอบครัวไม่ใช่ข้อเสีย แต่เป็นแรงผลักดัน วอนสงสารนายกฯ อายุน้อย อย่าฟ้องกันมาก ยันนั่งหัวโต๊ะไม่ข่มเหงใคร แต่พร้อมรับฟังทุกฝ่าย เตรียมแบ่งงานรองนายกฯ
เมื่อเวลา 10.15 น. วันนี้ (5 ก.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีตั้งรองนายกรัฐมนตรี 6 คน จะแบ่งงานอย่างไร ว่า ได้วางเอาไว้แล้วว่าจะให้ใครทำอะไร
เมื่อถามว่า จะเปิดเผยได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขออีกนิดนึง แต่ได้วางแล้ว ก็อยากให้เกิดความชัดเจนขึ้น เวลามอบหมายงานก็จะได้ตามกลับมาได้ชัดเจนขึ้นด้วย
ส่วนความมุ่งหวังกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้ และตั้งเป้าหมายอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าดี และคิดว่าดีมากๆ จริงๆทุกคนมีความพร้อมที่จะสานงานต่อ และคิดว่าเป็นพลังอะไรที่เรามารวมกันแล้ว และอยากจะทำเพื่อพี่น้องประชาชน อยากให้ประเทศไปต่อ ฉะนั้นหลายๆ คนมีทั้งหน้าใหม่และหน้าเดิม ซึ่งทุกคนก็พร้อมตรงนี้
ส่วนจะมีการตั้งเงื่อนเวลาเพื่อวัด KPI ในการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังค่ะ
เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์หน้าตา ครม. เป็นการสืบต่อครอบครัว เพราะตัวเองไม่ได้ตำแหน่ง แต่ให้ลูกให้เพื่อนให้ญาติแทน ลักษณะอาจจะใช้คำแรงว่า ครม.สืบสันดาน นายกรัฐมนตรี ถึงกับอุทานว่า “โห” ก่อนกล่าวว่า แรงจริงด้วย พร้อมกับหัวเราะและกล่าวว่า ใช้คำแรงจัง จริงๆ มีหลายรูปแบบ และหลายๆ คนที่ไม่ใช่เป็นครอบครัว หรือเกี่ยวข้องกัน และมีหลายๆ คู่ที่เป็นครอบครัวต่อกันมา แต่อยากให้มองว่าเป็นความตั้งใจได้ไหม ที่ถ่ายทอดกันมาในคนใกล้ชิดคนรู้จัก เพราะหลายๆ อย่างที่ต้องทำต้องใช้แรงผลักดัน อาศัยความภาคภูมิใจของคนข้างๆ คนรอบๆ ฉะนั้นคำว่าเป็นครอบครัวหรือเป็นอะไรมันไม่ใช่ข้อเสีย มันเป็นเรื่องของแรงผลักดันให้กันมากกว่า โดยเห็นว่าคนหนึ่งทำเพื่อประเทศแบบนี้ อีกคนหนึ่งในครอบครัวก็มีแรงผลักดันเช่นกัน มันเป็นแบบนั้น
เมื่อถามว่า พอมีคำว่าคนในครอบครัว ก็มีการมองถึงการครอบงำ ซึ่งนายกฯ ยังไม่ปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็มีเรื่องข้อหา รวมถึงการฟ้องร้องน.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “สงสารนายกฯ บ้าง อย่าฟ้องอะไรเยอะเลย เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว และก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ ฉะนั้นอย่างที่บอกและเคยให้สัมภาษณ์ไป ว่าบางทีเรื่องเล็กๆ อย่าไปให้ความสำคัญอะไรมากเลย แม้แต่เรื่องการฟ้องร้องอะไรต่างๆ คนฟ้องก็อย่าฟ้องเยอะเลย มันไม่ได้มีอะไรผิดแบบนั้นอยู่แล้ว ต้องค่อยๆ”
เมื่อถามว่า ด้วยความที่นายกฯ อายุน้อย และในสถานะต้องนั่งหัวโต๊ะ และต้องเป็นประธานบอร์ดโดยตำแหน่งในหลายๆ คณะ จะประหม่าตัวเองหรือกังวลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
“เอาจริงๆ นะคะ ตัวดิฉันเองคิดว่าได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้แล้ว โดยการโหวตจากสภา อันนี้ต้องขอบพระคุณทุกท่าน การที่ดิฉันเป็นตำแหน่งนายกฯ ไม่พร้อมที่จะข่มเหงใคร แต่พร้อมที่จะรับฟัง และพร้อมที่จะให้ความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นคิดว่าหลักคิดตรงนี้มันจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างสมูธ คิดอย่างนั้น“
ส่วนจะทำให้เกิดความบั่นทอนในการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ไม่ ก็โอเคนะคะ ทุกคนมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าทุกคนคิดในใจว่าวิจารณ์ด้วยเหตุผล ไม่ได้ใช้อารมณ์ คิดว่าน่าจะมี แต่โอเคมันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพียงแต่ขอกำลังใจกันบ้างแค่นั้นเอง
ส่วนจะมอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดูแลงานด้านความมั่นคงและคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ขอดูรายละเอียดนิดนึง เดี๋ยวจะไปแยกเรื่องของรองนายกฯ อีกที แล้วจะมาแจ้งให้ทราบ
เมื่อถามต่อว่า วันนี้ ( 5 ก.ย.) จะมีการเชิญรองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทย เข้ามาพูดคุยเพื่อแบ่งงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้มีการเชิญใครเข้ามาพูดคุย แต่เป็นการดูเรื่องของรายละเอียดในตำแหน่งงาน.-316.-สำนักข่าวไทย