เปิดสถิติคดีข่มขืนปี 2552-2556 ผู้ก่อเหตุส่วนมากยังลอยนวล

อสมท 4 ก.ย.-เปิดข้อมูลสถิติคดีข่มขืนที่เกิดตั้งแต่ปี 2552-2556 เฉลี่ย 4 ปี ตำรวจรับแจ้งความคดีข่มขืน 4,000 คดี/ปี แต่มีการคาดการณ์ว่าอาจมีคดีข่มขืนจริงมากถึง 30,000 คดี/ปี หรือทุก 15 นาที/คดี นั่นเท่ากับว่ามีเหยื่อถูกข่มขืนไม่ได้เข้าแจ้งความมากถึงร้อยละ 87 ขณะที่ตัวเลขการนำคนผิดมาลงโทษทำได้เพียง 2,400 คดี/ปี พร้อมย้อนคดีดังที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก 


เปิดข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับสถิติคดีข่มขืน ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2552-2556 ซึ่งโดยเฉลี่ย 4 ปี ตำรวจมีการรับแจ้งความคดีข่มขืน 4,000 คดี/ปี หรือ ทุก 2 ชั่วโมง/คดี อย่างไรก็ตาม มีเรื่องน่าตกใจเมื่อมีการคาดการณ์ว่า อาจมีคดีข่มขืนจริงมากถึง 30,000 คดี/ปี หรือทุก 15 นาที/คดี ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง เท่ากับว่ามีเหยื่อถูกข่มขืนไม่ได้เข้าแจ้งความมากถึงร้อยละ 87 ขณะที่ตัวเลขการนำคนผิดมาลงโทษทำได้เพียง 2,400 คดี/ปี


ข้อมูลสถิติข่มขืนตั้งแต่ปี 2552-2556 หากลงลึกถึงรายละเอียด สามารถแบ่งได้เป็นปี 2552 มีเหตุข่มขืนเกิดขึ้นมากถึง 4,895 ราย มีการจับกุมผู้กระทำผิดได้เพียงครึ่งเดียว หรือประมาณ 2,457 ราย ขณะที่ตั้งแต่ปี 2553-2556 ตัวเลขรับแจ้งมีเหยื่อถูกข่มขืนลดลงมาเรื่อยๆ โดยในปี 2553 มีการรับแจ้งเหตุ 4,400 ราย ปี 2554 รับแจ้งเหตุ 3,800 ราย ปี 2555 รับแจ้ง 3,572 ราย และปี 2556 รับแจ้ง 3,276 ราย ส่วนสถิติการจับกุมตลอด 4 ปี ยังไม่สามารถนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปถึงคดีข่มขืนที่เป็นคดีดัง มีด้วยกันหลายคดี แต่คดีเป็นโศกนาฏกรรม สร้างความสะเทือนใจให้ผู้ที่ทราบข่าว คือ คดีที่มีการพบร่างหญิงถูกรถไฟทับขาดหลายท่อนใน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2520 คดีนี้ช่วงแรกตำรวจฟันธงว่าเป็นอุบัติเหตุ แล้วปิดคดีไป แต่เมื่อนักข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นได้หยิบมาขยายผล เพราะเห็นปมพิรุธหลายอย่าง ทำให้ตำรวจต้องรื้อคดีขึ้นมาใหม่ และทำให้ทราบว่าหญิงที่เสียชีวิตซึ่งเชื่อว่าวิกลจริต ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 30 คน ล่อลวงไปข่มขืน กระทั่งหญิงสาวเสียชีวิต กลุ่มชายฉกรรจ์จึงช่วยกันอำพรางคดี โดยการนำเหยื่อไปวางให้รถไฟทับ คดีนี้ผู้ต้องถูกสั่งฟ้องเพียง 8-9 คนเท่านั้น


โดยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227 บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช้ภริยา หรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 80,000-400,000 บาท หากการกระทำความผิดเป็นการร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง หรือกระทำกับเด็กชายในลักษณะเดียวกันหรือได้กระทำโดยมีอาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง