นักวิชาการแนะภาครัฐเร่งแก้ปัญหาบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ

ตลิ่งชัน 3 ก.ย.-นักวิชาการด้านโบราณคดี แนะภาครัฐ ควรกระจายอำนาจสู่คนท้องถิ่น แก้ปัญหาบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่ไร้ความประณีต หยุดบูรณะแบบจ้างเหมา


ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ร่วมกับคณะโบราณคดี และหลักสูตรอนุรักษ์ศิลปกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดงานเสวนาวิชาการเเก้ไขปัญหาการบูรณปฏิสังขรณ์พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารในหัวข้อเรื่อง พระปรางค์วัดอรุณ : อันเนื่องมาจากการบูรณปฏิสังขรณ์ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี นักประวัติศาสตร์หลายคนร่วมวงเสวนา เล่าประวัติความเป็นมาของวัดอรุณฯ พร้อมเสนอแนะทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า ซึ่งเป็นโบราณสถานสืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 


ศาตราจารย์พิเศษศรีศักร วัลลิโภดม  นักวิชาการด้านโบราณคดีและมานุษยวิทยา กล่าวว่า พระปรางค์วัดอรุณฯ ถือเป็นศิลปวัฒนธรรม มีความสัมพันธ์กับบริบทของคนในสังคมวงกว้าง วัดอรุณฯ เป็นศูนย์กลางทิวทัศน์อันศักดิ์สิทธิ์ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะ ฉะนั้นทำอะไรต้องมีความระมัดระวัง  คงไว้ซึ่งความโดดเด่นของวัด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น  กรมศิลปากรใช้วิธีประกวดราคาจ้างผู้รับเหมา ทำให้มีเวลาที่จำกัด ซึ่งงานศิลปะต้องใช้เวลา มีความละเอียดอ่อน ดังนั้นภาครัฐ ควรกระจายอำนาจสู่คนในท้องถิ่น เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ และยังช่วยแก้ปัญหางานล้นมือของกรมศิลปากรที่มีงบประมาณอยู่อย่างจำกัด


ด้านศาสตราจารย์สายันต์ ไพรชาญจิตร์  อดีตคณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ตั้งคำถามว่า กรมศิลปากรมีกระบวนการจ้างผู้ รับเหมา ออกแบบ ทำสัญญาอย่างไร มีการทำวิจัยก่อนหรือไม่ ต้องมีการวิจัยประเมินสภาพคุณค่า ความเสียหาย ก่อนลงมือบูรณะ ปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนการทำงานที่หละหลวมของผู้รับเหมา และการกำหนดทีโออาร์ที่ไม่รัดกุม ขาดความรอบคอบ จึงเสนอว่ารัฐ ควรหยุดการบูรณะแบบจ้างเหมา ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาเร่งด่วน เพื่อตรวจสอบแก้ไขวัดอรุณฯ ให้คงสภาพโบราณสถานมากที่สุด  ในระยะยาว รัฐควรปรับแก้ พ.ร.บ.โบราณสถานฯ หากจะมีการบูรณะโบราณสถานสำคัญของประเทศอีก ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา มีอำนาจเหนือกรมศิลปากร ในลักษณะของบอร์ด เพื่อให้ร่วมกันตัดสินใจ ไม่ใช่ผูกขาดกับกรมศิลปากรเพียงฝ่ายเดียว

ขณะที่ดร.วสุ โปษยะนันทน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปนิก สำนักสถา ปัตยกรรม กรมศิลปากร กล่าวว่า กระแสดราม่าที่เกิดขึ้น สะท้อนถึงความสนใจของคนในสังคมซึ่งเป็นเรื่องที่ดี  แต่ควรศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์อย่างรอบคอบ เช่น ประเด็นที่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์สีของพระปรางค์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งแท้ที่จริงแล้วสีขาว คือสีดั้งเดิมของพระปรางค์ แม้การบูรณะครั้งนี้กรมศิลปากรไม่ได้เปลี่ยนแปลงลวดลาย แต่ยอมรับช่างขาดความประณีต บดบังความงดงามของพระปรางค์ ดังนั้นควรตั้งคณะกรรมการตรวจสอบดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากวัดอรุณฯเป็นสมบัติของชาติ ทั้งนี้โครงการบูรณะพระปรางค์และพระมณฑป วัดอรุณฯ เริ่มตั้งแต่ปี 2556 – 2560 หมดสัญญาช่วงเดือนตุลาคมนี้.-สำนักข่าวไทย    


   

           

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง