ฝรั่งเศส 8 ส.ค. – “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย คว้าเหรียญเงิน การแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่น 61 กก.ชาย ขณะที่ “ออย” สุรจนา คำเบ้า คว้าเหรียญทองรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง “ปารีสเกมส์”
การแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่น 61 กก.ชาย โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส เมื่อคืนนี้ “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย นักยกเหล็กดาวรุ่งวัย 20 ปีจากจังหวัดศรีสะเกษ แชมป์โลก 2022 จากรุ่น 55 กิโลกรัม ขยับน้ำหนักขึ้นมา ร่วมชิงชัยกับนักกีฬาอีก 11 คน โดยมี หลี่ ฟาปิน แชมป์เก่าจากจีน เจ้าของสถิติโลกในน้ำหนักรวม เป็นตัวเต็ง
ปรากฏว่า ท่าสแนทช์ ธีรพงศ์ ยกได้ดี ผ่านทั้ง 3 ครั้ง ที่น้ำหนัก 127, 130 และ 132 กิโลกรัม จบท่านี้เป็นอันดับ 3 ของท่านี้ ส่วนอันดับ 1 หลี่ ฟาปิน จากจีน ทำได้ถึง 143 กก. ทำลายสถิติโอลิมปิกของตัวเองเคยทำไว้ 141 กก. อันดับ 2 อีโก้ อิรวาน จากอินโดนีเซีย สถิติ 135 กก. ต่อที่ท่า คลีนแอนด์เจิร์ก ธีรพงศ์ ยังทำได้ดี แม้จะเจิร์กแล้วมียืนไม่นิ่งบ้าง ยกผ่านอีกทั้ง 3 ครั้ง โดยได้สถิติไปที่ 171 กิโลกรัมในท่านี้ น้ำหนักรวม 303 กิโลกรัม คว้าเหรียญเงินไปครองได้สำเร็จ ส่วน ท่านี้ ฟาปิน ทำสถิติได้ 167 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 310 กก. คว้าเหรียญทองป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ส่วนมอริส แฮมป์ตัน จากสหรัฐอเมริกาได้สถิติไป 172 กิโลกรัมจากการยกครั้งที่ 2 น้ำหนักรวม 298 กก. ได้เหรียญทองแดง
ธีรพงศ์ คว้าเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรก และเป็นเหรียญแรกของทัพนักกีฬายกเหล็กไทยใน “ปารีสเกมส์” พร้อมรับเงินรางวัลรวมแล้วราว 10.1 ล้านบาท แบ่งเป็นจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย 7.2 ล้านบาท, เงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี เป็นเงิน 2.4 ล้าน
ด้านบรรยากาศที่บ้านของ ธีรพงศ์ ศิลาชัย ที่บ้านกระเบาเดื่อ ตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ มีนายเษม ศิลาชัย อายุ 56 ปี พ่อของธีรพงศ์ เชียร์ลูกผ่านหน้าจอทีวี พร้อมบอกว่า หลังได้เหรียญเงิน นอนแทบไม่หลับ น้องฟ่าง เป็นคนชอบกีฬายกน้ำหนักมาตั้งแต่เด็ก ป.3 ตั้งแต่ลูกไปแข่งขันตนไม่ค่อยได้โทรหาลูก ก่อนการแข่งขันตนและครอบครัวได้ไปบนบานไว้กับศาลตายาย และต้นยางใหญ่กลางหมู่บ้าน ถ้าน้องข้าวฟ่างได้เหรียญกลับมา จะนำหัวหมู ไก่ต้ม ข้าวหม้อแกงหม้อ เครื่องดื่มไปเซ่นไหว้ อยากฝากบอกน้องข้าวฟ่างว่าดีใจและภูมิใจกับตัวลูกมาก เมื่อคืนพ่อตื่นเต้นมาก ขอให้น้องข้าวฟ่างมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ต่อไป
“สุรจนา”ซิวทองแดงยกเหล็กโอลิมปิก
ต่อมาเป็นการแข่งขันในรุ่น 49 กก.หญิง รอบชิงชนะเลิศ มี “ออย” สุรจนา คำเบ้า นักยกเหล็กสาวดีกรี 3 เหรียญทองชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2021 ร่วมชิงชัยกับนักกีฬาอีก 11 คน ท่าสแนทช์ สุรจนา ได้สถิติไปที่น้ำหนัก 88 กิโลกรัม โดยยกไม่ผ่านหนึ่งครั้งในครั้งที่ 2 ส่วนอันดับ 1 ในท่าสแนทช์เป็นของ มิเฮลา วาเลนตินา คัมเบอี จากโรมาเนีย ได้สถิติไปที่ 93 กก. และอันดับ 2 เหา จื้อฮุ่ย จากจีน 89 กก.
ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก สุรจนา ยกครั้งแรก และครั้งที่สอง ผ่านไปที่ 110 และ 112 กก. ส่วนครั้งที่ 3 สาวไทยเรียกน้ำหนักที่ 114 กก. แม้จะยกขึ้น แต่กรรมการ 2 คนไม่ให้ผ่าน ทำให้น้ำหนักรวมของสุรจนาอยู่ที่ 200 กก. คว้าเหรียญทองแดงไปครอง เฮา จื้อฮุ่ย แชมป์เก่าจากจีน คว้าเหรียญทอง โดยยกท่าท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 117 กก. ทำลายสถิติโอลิมปิก น้ำหนักรวม 206 กก. เหรียญเงินเป็นของ มิเฮล่า วาเลนติน่า คัมเบอี จากโรมาเนีย น้ำหนักรวม 205 กก. ทำให้ทัพยกน้ำหนักไทยลงแข่งขันวันแรก 2 รุ่น ทำเหรียญให้ทัพไทยได้ทั้ง 2 รุ่น
ทั้งนี้ สุรจนา จะได้รับเบื้องต้นจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 4.8 ล้านบาท เงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี เป็นเงิน 2.4 ล้านบาท ขณะที่บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) มอบเงินรางวัลอัดฉีดเหรียญทองแดง 3 แสนบาท.-สำนักข่าวไทย