6 ส.ค. – เสียงสะท้อน ขั้นตอนขายปลาหมอคางดำยุ่งยาก ต้องถ่ายคลิปยืนยันตอนจับ ล่าสุดปรับแล้ว ใช้แค่บัตรประชาชน-กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ที่จุดรับซื้อ ราคา กก.ละ 15 บาท
กรณีขั้นตอนการรับซื้อปลาหมอคางดำ จากแพปลา มีเสียงสะท้อนจากประชาชน และชาวประมงว่า ขั้นตอนขายให้กับแพปลามีความยุ่งยาก ต้องกรอกแบบฟอร์มเอกสารเพื่อตรวจสอบปลาจากผู้ขายว่า จับมาจากที่ใด โดยต้องถ่ายภาพและคลิปวิดีโอขณะจับไว้ จุดที่จับหากเป็นบ่อเลี้ยงสัตว์ มีใบอนุญาตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหรือไม่ หากจับมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จับมาจากที่ไหน ใช้วิธีไหนจับ แพที่รับซื้อต้องเป็นผู้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด
จากการสอบถามผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ประจำ จ.สมุทรสาคร ทราบว่า เดิมมีขั้นตอนยุ่งยากอย่างที่กล่าวมาจริง แต่ปัจจุบัน ประมงจังหวัดสมุทรสาคร ปรับวิธีการให้สะดวกมากขึ้นแล้ว โดยไม่มีการถ่ายคลิปวิดีโอ เพื่อยืนยันการจับ วิธีการจับ และแหล่งที่มา แต่ผู้นำปลาหมอคางดำมาขาย จะต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อนำข้อมูลกรอกลงในแบบฟอร์ม ระบุ ชื่อ ที่อยู่ จุดที่จับปลา หากเป็นบ่อเลี้ยงมีใบอนุญาตหรือไม่ หรือจับมาจากแหล่งธรรมชาติจุดใด ปริมาณเท่าไหร่ แต่ไม่จำกัดว่าผู้จับต้องเป็นใคร ประชาชนทุกคน สามารถนำปลามาขายได้ ในราคา 15 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากเจ้าของแพ ผู้รับซื้อ ต้องนำข้อมูลเหล่านี้รวบรวมให้หน่วยงาน ทั้งกรมประมง การยางแห่งประเทศไทย เพื่อรับเงินที่จ่ายให้กับชาวบ้านไปก่อน คืนจากภาครัฐ
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการจัดตั้งจุดรับซื้อทุกพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด 75 จุด การันตีราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 15 บาท ก่อนรวบรวมปลาหมอคางดำที่รับซื้อไว้ส่งให้สถานีพัฒนาที่ดินแต่ละพื้นที่ผลิต เป็นน้ำหมักชีวภาพ เพื่อส่งมอบให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำไปแจกจ่ายแก่เกษตรกรในโครงการแปลงใหญ่เพื่อนำไปใช้ในพื้นที่สวนยางกว่า 200,000 ไร่ โดยเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำเป็นระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคม และหากสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้วกรมประมงและ กยท. จะร่วมกันพิจารณาการขยายเวลารับซื้ออีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย