พรรคพลังประชารัฐ 23 ก.ค.- “พล.อ.ประวิตร” เปิดตัว “วัน อยู่บำรุง” ซบ พปชร. ฉุนเจอถามเป็นพรรคสาขาเพื่อไทย ตะโกนบอก “ไม่มี” ด้าน “วัน” ยุเพื่อไทยขับ “เฉลิม” ซาบซึ้ง “ลุงป้อม” ใจกว้าง เมตตา ใจถึงพึ่งได้ของแท้ ปูด ส.ค-ก.ย. มีข่าวใหญ่การเมือง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมแถลงเปิดตัวนายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม.พรรคเพื่อไทย รวมถึง นายพยม พรหมเพชร อดีต สส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ, ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย อดีต สส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ ที่ย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย, นายอำพล ขำวิลัย, นายซอบรี หมัดหมัน, นายชารีฟุดดีน สารีมิง และนายสุเนตตา แซ่โก๊ะ เข้าเป็นสมาชิกพรรค โดย พล.อ.ประวิตร ได้สวมเสื้อพรรคให้กับทั้ง 6 คน จากนั้นได้ถ่ายรูปชูมือร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตร ในหลายคำถาม โดยเฉพาะเหตุผลที่รับนายวัน เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค รวมถึงพื้นที่ กทม.ของพรรคจะแข็งแรงขึ้นหรือไม่ แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ กระทั่งผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตร ถึงกับทำเสียงขึงขังว่า “ไม่มี” และทำหน้าหงุดหงิด จากนั้นได้ขึ้นลิฟต์ไปห้องทำงาน โดยไม่พูดใด ๆ อีก
จากนั้นนายวัน แถลงว่าวันนี้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งภายหลังการลาออกจากผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงสาธารณสุข มีเพื่อนๆ จากหลายพรรคติดต่อมาชวนเข้าพรรคจำนวนมาก แต่ซักพักก็เงียบหายไป ซึ่งไม่ทราบว่าโดนใครแตะเบรกมาหรือไม่ จากนั้นนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ก็ติดต่อชวนมาอยู่กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประวิตร ได้เรียกตนเองเข้าพบ
“เมื่อเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ครั้งแรก ได้บอกกับตนเองว่ายินดีต้อนรับให้มาอยู่และมาทำงานด้วยกัน ซึ่งสร้างความซาบซึ้งและประทับใจให้กับผม เพราะผมเหมือนหนีร้อนมาพึ่งเย็น พล.อ.ประวิตร ใจใหญ่ ใจกว้าง ใจถึงพึ่งได้ของแท้จริงๆ และผมขอขอบคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ได้อวยพรให้ตนโชคดีกับการเดินทางการเมืองในพรรคใหม่” นายวัน กล่าว
นายวัน กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ในวันเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เมื่อปิดหีบลงคะแนนแล้ว ตนได้ไปปรากฏตัวที่บ้านบิ๊กแจ๊ส พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ตามภาพข่าวนั้น คือ เรื่องจริง ถูกต้องอยู่แล้ว
“ต้องบอกว่า ร้อยตำรวจเอกเฉลิม คุณพ่อผม สส.พรรคเพื่อไทย ท่านถึงบ้านบิ๊กแจ๊สก่อนผมอีก แต่ก็ไปหลังปิดหีบเหมือนกัน อย่างนี้ฝากไปถึงคณะกรรมการจริยธรรมพรรคเพื่อไทย ว่าจะดำเนินการอย่างไร การที่ร้อยตำรวจเอกเฉลิม ไปปรากฏตัวที่บ้านบิ๊กแจ๊ส จะมีภาพถ่ายหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ ไปถามท่านเฉลิมได้ ถามบิ๊กแจ๊สได้ ถามพี่น้องเสื้อแดงได้ กรณีอย่างนี้ พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการจริยธรรม ต้องดำเนินการ ควรขับร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง ออกจากพรรค ทุกวันนี้ยังไม่มีใครเรียก ร้อยตำรวจเอกเฉลิม ไปต่อว่าอะไรเลย ถ้าร้อยตำรวจเอกเฉลิมทำได้แบบนี้ เดี๋ยว สส. คนอื่นของพรรคเพื่อไทยก็ทำได้ ไม่อย่างนั้นจะปกครองคนอย่างไร ท่านต้องขับร้อยตำรวจเอกเฉลิมออกจากพรรคเพื่อไทย” นายวัน กล่าว
นายวัน กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทยยังมีจิตใจเมตตา ที่แยกแต่ละเรื่อง ทั้งเรื่องของตน ร้อยตำรวจเอกเฉลิม และ กาโม่ นายอาชวิน อยู่บำรุง ก็เป็นคนละเรื่องกัน แต่อนาคตเราก็ไม่ทราบ ซึ่งเมื่อเช้าวันนี้ (23 ก.ค.) เห็นข่าวนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่าการที่ตนมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐนั้น ให้ประชาชนพิจารณา ปกตินายภูมิธรรมไม่เคยพูดแบบนี้ ไม่ทราบใครสั่งมาให้พูดหรือไม่ รวมถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าไม่ทราบเรื่อง ที่ตนจะมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นเรื่อง พล.อ.ประวิตร นั้น ตนกับ ร.อ.ธรรมนัส รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 40 การที่ท่านบอกไม่ทราบเพราะอาจจะงานยุ่ง
ส่วนหลังจากนี้ความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย จะเผาผีกันหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า อันนี้ก็แรงเกินไป ทุกคนต้องมีแนวทางทางการเมือง ถึงแม้จะอยู่ต่างพรรค ตอนเป็น สส.ตนก็มีเพื่อนทุกพรรค ส่วนการที่ออกมาแล้ว และพูดเช่นนี้ จงใจสร้างความเสียหายให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า นี่ตนพูดว่าร้ายพรรคเพื่อไทยตรงไหน เอาความจริงมาพูด ไม่เผาบ้านเก่าหรอก อยู่มาตั้ง 17 ปี แต่บางเรื่องข้อเท็จจริง ต้องเล่าสู่กันฟัง
เมื่อถามว่า ร้อยตำรวจเอกเฉลิม และพลเอกประวิตรได้พูดคุยกันบ้างหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ตนไปพบ พลเอกประวิตรมาแล้วรอบหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 19 ก.ค. พลเอกประวิตรก็ติดต่อผ่านนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ให้เชิญ ร้อยตำรวจเอกเฉลิม และตนไปรับประทานข้าว ซึ่ง ร้อยตำรวจเอกเฉลิม และพลเอกประวิตร พูดคุยใช้เวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งทั้งสองท่าน รู้จักกันตั้งแต่ ร้อยตำรวจเอกเฉลิมเป็นสารวัตรกองปราบ พลเอกประวิตร ขณะนั้นมียศเป็น พ.ต. หรือ พ.ท. ตนไม่แน่ใจ แต่รายละเอียดอื่นๆ ตนไม่ทราบ เพราะท่านคุยกันกระซิบกระซาบ กระหนุงกระหนิง พลเอกประวิตรท่านเมตตาอ้าแขนรับตนคนแรก
เมื่อถามอีกว่า มีโอกาสที่ ร้อยตำรวจเอกเฉลิมจะมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า “ผมตอบแทนคุณพ่อเลยครับ ถ้าพรรคเพื่อไทยขับ ร้อยตำรวจเอกเฉลิมเข้าพรรคพลังประชารัฐแน่นอน ก็มันผิดระเบียบหรือไม่ ก็อย่างผมยังบอกว่าผิด ทั้งที่ผมไม่ได้เป็น สส.แต่มีตำแหน่งทางการเมือง วันนี้คุณพ่อก็อยู่พรรคเพื่อไทยก็รู้ ก็รออยู่ ไม่เห็นเรียกคุณพ่อผมไปกล่าวว่าตักเตือนหรืออะไรสักอย่าง”
นายวัน กล่าวว่า ส่วนอนาคตทางการเมืองของตน ไม่ได้มีแค่ สส. ไม่ต้องเป็น สส.แต่ทำงานอยู่กับพรรคที่มีศักยภาพช่วยเหลือประชาชนได้ ทั้งนี้ พรรคอื่นโดนเตะเบรกเรื่องตน ตนไม่รู้ใครไปแตะเบรก แต่ พลเอกประวิตรไม่สน ท่านเมตตาตนเหมือนลูกเหมือนหลาน อยู่กับท่านแล้วอบอุ่น และไม่ทราบว่า ทำไมพรรคเพื่อไทยถึงไม่ขับ ร้อยตำรวจเอกเฉลิมออกจากพรรค และไม่ทราบว่ามีเหตุจำเป็นอะไรที่พรรคเพื่อไทยต้องรักษาร้อยตำรวจเอกเฉลิมไว้
ทั้งนี้ เคยติดต่อไปที่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า มีเพื่อนๆ ที่เป็นสมาชิกแทบทุกพรรคโทรศัพท์หาตน แต่ไม่มีผู้ใหญ่ของพรรคไหนโทรมา เอาว่ามีการแตะเบรกก็แล้วกัน เมื่อถามว่า ฝืนใจหรือไม่ที่ต้องมาพรรคพลังประชารัฐ นายวัน กล่าวว่า “โอ้โห เป็นพรรคแรกที่อ้าแขนรับผม พลเอกประวิตรบอกยินดีต้อนรับ มาอยู่กับผม มาทำงานด้วยกัน ผมตัดสินใจอยู่กับลุงป้อมทันที”
ทั้งนี้ คิดว่าจะสร้างกระแสจนมีคะแนนนิยมได้เป็น สส.ในอนาคตให้พรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่แน่ไม่นอน โอกาสอะไรใหม่ ๆ ที่ดีก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะชิงพื้นที่บางบอนกลับมาได้ คอยจับตาดูให้ดีเดือนสิงหาคม กันยายน จะมีเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญรอติดตาม
ส่วนการมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ มีความรู้สึกหรือไม่ว่า พลเอกประวิตร กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจจะไม่ลงรอยกัน นายวัน กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าท่านไม่ลงรอยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน และการที่ตนมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐก็ไม่เกี่ยวกับการแก้เกมอะไรทั้งสิ้น ตนอยากมีพรรคสังกัดไวๆ จะได้ทำงานได้
ขณะที่ ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตรกับอยู่บำรุง ถือว่าขาดกันแล้วหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ส่วนตัวก็รักเคารพคุณอาทักษิณอยู่เสมอ ตนเรียกคุณอาตลอด เวลาพบเจอไม่ว่าตั้งแต่สมัยไหน จนกระทั่งล่าสุดก็เรียกคุณอา ยืนยันว่ายังรักเคารพท่าน แต่ทางการเมืองก็ว่ากันไป.-315 -สำนักข่าวไทย
