ทิสโก้ เผยครึ่งแรกปี 67 กำไรสุทธิ 3,482 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 12 ก.ค. – กลุ่มทิสโก้ แจ้งผลประกอบการครึ่งแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 3,482 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการตั้งค่าใช้จ่ายสำรองสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตและต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น รองรับความเสี่ยงเศรษฐกิจ-แรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์


นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 แม้จะมีแรงหนุนในภาคบริการจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง ภาคการส่งออกที่เห็นสัญญาณฟื้นตัว และแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เริ่มกลับมาเร่งตัวขึ้นหลัง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 มีผลบังคับใช้ แต่ภาพรวมยังคงเปราะบางและมีปัจจัยกดดันในหลายด้าน โดยเฉพาะภาคการผลิตและการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัวในระดับต่ำ จากปัญหาเชิงโครงสร้างและความสามารถในการแข่งขันที่ปรับลดลง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชะลอตัวจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่ทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศหดตัวลงอย่างรุนแรงจากกำลังซื้อที่ถดถอย รวมถึงคุณภาพหนี้สินที่มีแนวโน้มด้อยลง

ทั้งนี้ ครึ่งแรกของปี 2567 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 3,482 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะงวดไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 1,749 ล้านบาท ลดลง 5.7% จากไตรมาส 2 ของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ ขณะที่ต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ยังได้แรงหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อจำนำทะเบียนผ่านการขยายสาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากกำไรจากเงินลงทุน ขณะที่ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักชะลอตัวลงตามภาวะตลาดทุนที่ผันผวน และธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่ซบเซา


ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กลุ่มทิสโก้ จะเน้นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและเติบโตอย่างยั่งยืน วางกลยุทธ์ ESG in Action ยกระดับความเป็นอยู่และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สังคม รวมถึงการให้คำปรึกษาเรื่องการรวมหนี้เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีภาระดอกเบี้ยที่ลดลง พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางในเชิงรุกผ่านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เป็นต้น

สรุปผลประกอบการสำหรับงวดไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี 2567

ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้สำหรับไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,749 ล้านบาท ลดลง 5.7% จากไตรมาส 2 ปี 2566 สาเหตุหลักมาจากสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้รวมจากการดำเนินงานเติบโต 5.5% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการรับรู้กำไรจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจจากการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 0.9% ตามสินเชื่อที่เติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีก่อนหน้า ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาด ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนฟื้นตัวเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักทรัพย์ยังคงซบเซา เป็นไปตามมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่หดตัว ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวลดลงจากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายทางการตลาด


สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 กำไรสุทธิมีจำนวน 3,482 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากครึ่งปีแรกของปี 2566 เนื่องมาจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) ที่เพิ่มขึ้น ด้านรายได้รวมจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 3.8% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ขยายตัว 3.1% ตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ประกอบกับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้น 5.5% จากกำไรจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจ ขณะที่ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์อ่อนตัวลง จากธุรกิจนายหน้าประกันภัย ตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ชะลอตัว อีกทั้ง ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ปรับลดลงตามมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ซบเซา ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 16.6%

เงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีจำนวน 233,448 ล้านบาท ลดลง 0.6% จากสิ้นปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของสินเชื่อเช่าซื้อ สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ในประเทศที่หดตัวลง ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อ SME และสินเชื่อจำนำทะเบียนยังคงขยายตัว แต่เติบโตในอัตราที่ช้าลง โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบในการปล่อยสินเชื่อใหม่ท่ามกลางสภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ สิ้นไตรมาสนี้ อยู่ที่ 2.4% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการขยายสินเชื่อไปในกลุ่มที่มีอัตราผลตอบแทนสูง และผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า โดยบริษัทมุ่งเน้นการติดตามทวงถามหนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินนโยบายการบริหารความเสี่ยงและตั้งสำรองอย่างรัดกุม และมีระดับค่าเผื่อสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) อยู่ที่ 162.7%

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 20.6% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.6% และ 2.0% ตามลำดับ. -516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง