ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายหลอกวัยเกษียณลงทุนออนไลน์

28 มิ.ย. – ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกผู้สูงอายุวัยเกษียณลงทุน เสียหายกว่า 200 ล้านบาท รวบผู้ต้องหาได้ 30 คน จับตัวการสำคัญเป็นทั้งแอดมิน และคนจัดหางานและบัญชีม้า มาร่วมขบวนการ ซัดทอดนายทุนจีนเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง


พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1, พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 แถลงข่าวการปฏิบัติการ ดานฮั่นเตอร์ (DAY HUNTER) บุคคล 6 เป้าหมายในกรุงเทพฯ ทลายเครือข่ายอ้างเป็นคนดังหลอกผู้สูงอายุวัยเกษียณลงทุน หลังมีผู้สูงอายุจำนวนกว่า 40 คน ร้องทุกข์กล่าวโทษผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ว่าได้ถูกมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนผ่าน แอพพลิเคชั่น ชื่อว่า เพนฟอร์ด (PENFOLD) และแอพพลิเคชั่น ไอบีทีเอ็ม (IBTM) รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท

โดยพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุมักสร้างเฟซบุ๊กปลอมแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงด้านการลงทุน ใช้วิธีแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเฟซบุ๊กจริงที่เกี่ยวกับการลงทุน จากนั้นได้ทำค้นหารายชื่อกลุ่มเป้าหมายโดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มข้าราชการเกษียณอายุ ก่อนติดต่อแนะนำหรือชักชวนให้กับกลุ่มเป้าหมายร่วมลงทุน โดยให้กลุ่มเป้าหมายติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพได้สร้างขึ้นมาหลอกให้โอนเงินเพื่อเข้าร่วมลงทุนเป็นระยะเป็นจำนวนหลายครั้งแต่ถ้าหากเหยื่อต้องการถอนเงินกลุ่มผู้ก่อเหตุก็จะอ้างเหตุผลต่าง ๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายโอนเงินเพิ่ม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้จริง


พล.ต.ท.วรวัฒน์ เปิดเผยว่าหลังจากได้ทราบเรื่องร้องเรียนก็ได้สั่งการให้ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ทำการสืบสวนโดยทันที กระทั่งตำรวจสามารถพบเป้าหมายอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 6 จุด ก่อนที่จะวางแผนเข้าปฏิบัติการตรวจค้นจนสามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 30 คน เป็นกลุ่มแอดมิน ผู้จัดหาบัญชีม้า รวมทั้งบัญชีม้าโดยผู้ต้องหาสำคัญคือนางสาวปานชีวัน อายุ 33 ปี และนางสาวชานิภา อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับชาวจีนระดับหัวหน้าองค์กร โดยทั้ง 2 คน ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและจัดหาคนเข้ามาทำงานในองค์กรโดยวิธีประกาศรับสมัครผ่านเฟซบุ๊ก จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 14 เครื่อง โทรศัพท์ 6 เครื่อง เอกสารรับสมัครงาน สมุดบัญชีธนาคาร เอกสารการเงิน เอกสารบทสนทนาที่เตรียมไว้สำหรับหลอกกลุ่มเป้าหมาย และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอีกหลายรายการ

พล.ต.ต.สถิตย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นซัดทอดไปถึงนายทุนชาวจีนที่เป็นระดับผู้บริหารและผู้สั่งการจำนวน 2 คน ทราบว่าสั่งการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย

ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ เปิดเผยว่า พฤติกรรมการหลอกลวงประเภทนี้เรียกว่าไฮบริดสแกรม หลอกลวงกลุ่มเป้าหมายเพื่อเข้าร่วมลงทุนโดยการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านสื่อออนไลน์ และสร้างโปรแกรมเสหมือนจริงมาเป็นเครื่องมือหลอกโอนเงิน ปัจจุบันพบการแจ้งความถูกหลอกในลักษณะนี้มากถึง 60,000 คน มีมูลค่าความเสียหาย 22,000 ล้านบาท จึงเป็นสิ่งที่ตำรวจไซเบอร์ต้องเร่งขยายผลทลายเครือข่ายดังกล่าวให้หมดไป สำหรับตัวผู้ต้องหาทั้งหมดตำรวจได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, เป็นอั้งยี่, และร่วมกันทุจริตหรือหลอกลวงโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันสมคบการฟอกเงิน


ผู้บัญชาการ สอท.ระบุว่าสำหรับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตนเองเป็นบุคคลดังหลอกคนจีนวัยเกษียณอายุร่วมลงทุนซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ของประเทศไทยนั้น ผู้เสียหายทั้งหมดเป็นคนจีนวัยเกษียณอายุ กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ 9 มณฑลของประเทศจีน และถึงแม้คดีนี้ผู้เสียหายจะเป็นคนจีน แต่เมื่อกระทำผิดในประเทศไทยก็ต้องดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ได้ติดต่อไปยังทางการจีนเพื่อให้ดำเนินการติดตามผู้เสียหาย เพื่อยืนยันความเสียหายแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางการจีนสามารถติดตามผู้เสียหายได้แล้ว 2 คน ในมณฑลหูเว่ย ตะเข็บชายแดน จีนทิเบต ซึ่งทั้งสองคนยืนยันความเสียหายตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านหยวน หรือประมาณ 15 ล้านบาท. -414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง