ตร. 26 มิ.ย. – นายกฯ ประชุม ก.ตร. จับตาวาระคำสั่งให้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 5/2567 โดยวาระหลักที่น่าจับตาการประชุมในวันนี้ คือ การพิจารณาเรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการตำรวจ กรณีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน รวมถึงวาระเรื่องการพิจารณาผลสรุปการสอบสวนของคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย (อนุ ก.ตร.) เรื่องให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
จากนั้นเวลา 14.57 น. นายเศรษฐา เดินทางมาถึงโดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมารอต้อนรับ ถือเป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสื่อครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ภายหลังได้รับคำสั่งจากสำนักนายกรัฐมนตรีให้กลับมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีมีสีหน้ายิ้มแย้ม และเดินเข้ามาแตะไปที่ไหล่ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อนจะหันมาทักทายสื่อ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าวันนี้ไหวหรือไม่กับการประชุม ก.ตร. นายเศรษฐา ไม่ได้ตอบ แต่หันมายิ้ม และชู 2 นิ้ว ให้กับสื่อมวลชน ก่อนจะเดินขึ้นไปประชุม ก.ตร. ที่ชั้น 2 ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำหรับวาระการประชุม ก.ตร.ที่น่าจับตาการพิจารณาลงมติว่าการเซ็นคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ที่ลงนามโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สมัยเป็น รักษาการ ผบ.ตร.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลังคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับดำเนินการทางวินัยพิจารณาแล้ว ซึ่งล่าสุด อนุฯ ก.ตร.วินัย มีมติเสียงส่วนใหญ่ว่า คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมาย โดย พล.ต.อ.วินัย ในฐานะประธาน อนุฯก.ตร.วินัย จะเสนอเข้าที่ประชุม ก.ตร.เพื่อพิจารณาลงมติด้วย ซึ่งหากที่ประชุม ก.ตร.มีมติเห็นชอบตามที่ อนุฯ ก.ตร.วินัย เสนอว่าคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับตามกฎหมาย โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครอง แต่ถ้า ก.ตร.เห็นต่างจาก อนุฯ ก.ตร.วินัย ลงมติว่าคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็อาจจะสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปลี่ยนแปลงคำสั่ง และรับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับเข้าราชการทันที และมีผลย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 18 เม.ย.2567
มีรายงานว่า ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นคัดค้านผลการพิจารณาของ อนุ ก.ตร.ด้านวินัย ต่อที่ประชุม ก.ตร.ไว้แล้วเช่นกัน
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความรู้สึกก่อนการประชุม ก.ตร.ในวันนี้ว่า ตนเชื่อว่าการประชุมในวันนี้ จะไม่มีผลอะไรต่อตัวเองทั้งสิ้น เพราะที่ประชุม ก.ตร.จะโยนเรื่องดังกล่าวไปที่คณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ให้เป็นผู้พิจารณา เพราะตอนนี้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมาก เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ลงมติมีความเห็น 10 : 0 ว่าการออกคำสั่งให้ตนออกจากราชการไว้ก่อนของอดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ชอบ และไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบกับตนเองเดินหน้าฟ้องร้อง จึงทำให้หลายคนไม่อยากเข้ามามีส่วนในเผือกร้อนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าในเวลานี้เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ผู้นำจะต้องออกมาแก้ไขปัญหา หากผู้นำยังคงเพิกเฉย ปัญหาความขัดแย้งไม่มีวันจบสิ้นเพราะความเสียหายยังตกและคงอยู่กับตนคนเดียว ทางออกสำหรับเรื่องนี้ มันง่ายนิดเดียว เมื่อคำสั่งดังกล่าวมันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถูกต้อง ผู้นำองค์กรซึ่งก็คือนายกรัฐมนตรี ก็แค่แก้ไขให้มันถูกต้อง ยกเลิกคำสั่งเสีย ทุกอย่างก็จบแล้ว
“บิ๊กโจ๊ก” ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ประชุม ก.ตร.ในวันนี้ ที่ประชุมก็ได้ถอนวาระ เรื่องตนออกไป ซึ่งนั่นหมายความว่า ณ เวลานี้ทุกคนต่างวิ่งหนี เพราะกลัวผลที่ตามมา จึงผลักเรื่องดังกล่าวให้กับคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ซึ่งเป็นศาลปกครองชั้นต้น ส่วนตัวยังเชื่อว่าจะได้กลับเข้าไปทำงานรับใช้ประชาชนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง แต่อาจต้องใช้เวลารอคอยนานอีกนิด
อย่างไรก็ตาม สำหรับกำหนดการความเคลื่อนไหวของตนในวันศุกร์นี้เวลา 10.00 น. ตนจะยื่นฟ้องดำเนินคดี ตำรวจยศ พล.ต.อ. อักษรย่อ ต. ที่ศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้ ตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และในสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องกูรูอดีตตำรวจยศนายพล อีก 1 คน ผู้รู้มาก แต่ไม่รู้จริง ทำให้ตนเสื่อมเสีย. -414, 419-สำนักข่าวไทย