ทำเนียบฯ 10 ก.ค.-นายกฯ รุดมอบนโยบาย บช.ตชด. “บิ๊กต่อ-บิ๊กยง” ต้อนรับ เน้นย้ำป้องกัน สกัดยาเสพติดตามแนวชายแดน ขอบคุณ ตชด.มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ-คุณภาพชีวิต แนะส่งคู่สมรสสร้างสัมพันธ์ในชุมชน-ห่วงสวัสดิการ ก่อนเดินดูบ้านพัก สั่งเร่งปรับปรุง สร้างใหม่ทันที
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อมาถึงนายกฯ ตรวจแถวกองเกียรติยศ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) จากนั้นนายกฯสักการะอนุสาวรีย์ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ พร้อมลงนามในสมุดเยี่ยม
ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะขึ้นมายังห้องประชุมวิปุลากร เพื่อมอบนโยบายในโอกาสตรวจเยี่ยมการปฏิบัติราชการกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยได้รับชมวิดิทัศน์บรรยายสรุปการปฎิบัติงานของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในด้านต่างๆ เช่น การจัดกำลังป้องกันชายแดนปี 2567 การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ที่มีปัญหาด้านความมั่นคง รวมทั้งการปราบปรามอาชญากรรม 6 ประเภท การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนการพัฒนาช่วยเหลือประชาชน ความมั่นคง และการสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มาเยี่ยมชมกองบัญชาการตำรวจบริเวณชายแดนและได้ฟังการนำเสนอภารกิจของ ตชด.ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มิติที่ตำรวจตะเวนชายแดนทำงานมีหลายอย่าง ทั้งเรื่องของการป้องกันชายแดน เพื่อความมั่นคงของประเทศถือว่าปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมาก อีกเรื่องคือ การพัฒนาซึ่งพบว่ามีการพัฒนาในหลายหลายด้านทั้งเรื่องของมวลชน โรงเรียน และจิตอาสา ซึ่งโรงเรียนตามตะเข็บชายแดนอยู่จำนวนมากและเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ผลักดันเรื่องนี้ และปัจจุบันที่มีความละเอียดอ่อนเกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศที่มีปัญหาไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับเมียนมา รวมถึงเรื่องการลักลอบเข้าเมืองหรือผู้อพยพเรามีการดูแลความ ตามหลักสิทธิมนุษยธรรม
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า มีหลายเรื่องที่ทำงานร่วมกันกับกรมศุลกากรที่ดูแลเรื่องสินค้าเถื่อนที่เข้ามา ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่งต้องมีการขยายผลเพื่อให้ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ความภาคภูมิใจที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศดีขึ้นคงไม่ใช่แค่ตำรวจตระเวนชายแดนอย่างเดียว แต่มีส่วนช่วยกรมศุลกากรและทหารก็มีส่วนช่วยสกัดกั้นสินค้าเถื่อนเข้ามาอย่างเช่นเรื่องยางพาราก็มีการประสานงานร่วมกันระหว่างภาคต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ราคายางพาราในช่วงที่ผ่านมาดิตัวสูงขึ้นจาก 3 กิโลกรัม 100 บาทเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท
ขณะที่การดูแลสามจังหวัดชายแดนใต้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน เราพยายามที่จะดูแลเรื่องของความมั่นคงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน รัฐบาลมีหน้าที่ที่ต้องลงไปให้การกระตุ้นเศรษฐกิจที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดีขึ้น ทำให้ภารกิจของตำรวจตระเวนชายแดนน้อยลงไป แต่ไม่ใช่เราลืมเรื่องความมั่นคงซึ่งถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราให้ความสำคัญเช่นกัน โดยวันที่ 3 สิงหาคม นี้ ตนเองก็จะลงพื้นที่กับนายกฯมาเลเซีย เพื่อดูเรื่องของความมั่นคง ซึ่งต้องดูแลควบคู่ไปกับเรื่องของเศรษฐกิจ เพราะมีความเชื่อว่าหากประชาชนมีความเห็นอยู่ดีกินดีเรื่องการหาเรื่องที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบจะลดน้อยลง
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ มีคู่สมรสหากพวกท่านให้คู่สมรสสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ เป็นจิตอาสาเข้าไปพัฒนาพื้นที่ต่างๆหรือเป็นเรื่องที่ดีในการผูกมิตรสัมพันธ์กับชาวบ้านและประชาชนทั่วไปทำให้การทำงานในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นกาคหาเบาะแส หรือการทำงานอื่นๆดีดีขึ้นด้วย แต่วันนี้เรื่องที่ตนมาและจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานีก็เรื่องของยาเสพติดที่เป็นปัญหาใหญ่มาก เพราะเนื่องจากเรื่องปากท้องคือเรื่องของยาเสพติดยาบ้าทะลักเข้ามาในพื้นที่มากมาย เชื่อว่าพวกท่านที่ทำงานก็เสียสละเวลาและเสี่ยงต่ออันตรายทั้งหลายเพื่อที่จะสกัดตามชายแดนไม่ให้สารเสพติดเข้ามาในประเทศ เพราะอย่างที่ทราบกันดีกว่า 90% มาจากต่างประเทศถือว่าเป็นงานที่ท้าทายและต้องมีการทำงานร่วมกันกับปปส.และกองทัพบก ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่มีการบูรณาการทำงานครบถ้วนกันได้อย่างดี เพราะการทำงานร่วมกันถือเป็นเรื่องสำคัญอย่าขีดเส้นเพื่อให้จัดการปัญหายาเสพติดให้สิ้นซาก ซึ่งขณะนี้เรามีจังหวัดนำร่องแล้วสองจังหวัดคือ น่านและร้อยเอ็ด เรื่องนี้คือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้สำเร็จภายในสิ้นไตรมาสสามของปีนี้จะทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนอยู่เป็นสุข
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ส่วนเรื่องของสวัสดิการในการดูแลเชื่อว่าทุกคนก็เป็นห่วงตนได้มีการตอกย้ำกับผู้บัญชาการทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ปกรณ์และเครื่องมือต่างๆที่เราจะสามารถให้เรามีความเป็นต่อกับผู้ก่อการร้ายได้ซึ่ง รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันตนก็เป็นห่วงเรื่องของบ้านพักด้วย ตนยินดีที่จะช่วยเหลือเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน
”วันนี้ฝากน้องสื่อมวลชนด้วยว่า ตำรวจตระเวนชายแดนไม่ใช่ป้องกันอย่างเดียว แต่ยังมีการพัฒนามีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ถือว่าราคาสินค้าพืชผลการเกษตร ขึ้นราคาเป็นประวัติศาสตร์เกือบทุกชนิด ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจที่มีส่วนช่วยเหลือตรงนี้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของความมั่นคง แต่มีอย่างเดียวที่เราจะต้องทำให้หนักขึ้นก็คือเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดเพื่อกำจัดให้หมดไป“ นายกรัฐมนตรี ระบุ
ภายหลังมอบนโยบาย นายกรัฐมนตรีได้ไปติดตาม ตรวจเยี่ยม บ้านพักข้าราชการของตำรวจชายแดน ที่สภาพค่อนข้างเสื่อมโทรม แออัด คับแคบและไม่เพียงพอ และให้กำลังใจกับกำลังพลของ ตชด. ที่บริเวณแฟลตที่พักด้านหลังกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงสวัสดิการและความเป็นอยู่ของข้าราชการ การสร้างแรงจูงใจ ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณ นายกรัฐมนตรี รับปากที่จะดูแลให้รวมทั้งมีการประสานในเรื่องของการปรับปรุงที่อยู่อาศัย ยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนรูปแบบการก่อสร้างให้หารือกับ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะเท่าที่ดูในปัจจุบันสถานที่พักอาศัยน่าจะไม่เพียงพอ รวมถึงสถานที่จอดรถ
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงการดำเนินงานของโรงเรียน ตชด. ที่ไม่ได้สังกัดกับกระทรวงศึกษาธิการ นายกรัฐมนตรี จึงข้อให้ไปสร้างแรงจูงใจ โดยเฉพาะการมอบสวัสดิการให้กับครู ตชด.
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่างบประมาณ ในการพัฒนาโรงเรียน ตชด. รวมถึงบุคลากร จะสามารถดำเนินการทันทีได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในส่วนของโรงเรียน ตชด. ไม่เกี่ยวกับกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีสามารถโยกมาดำเนินการได้ ทั้งนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงให้ความสำคัญในด้านการศึกษา ในส่วนของโรงเรียน ตชด. อย่างมาก และในปัจจุบันห้องเรียนไม่เพียงพอ ครูไม่พอ รวมถึงสวัสดิการของครู ตชด. ก็ไม่ดี จึงเป็นที่มาของจำนวนครูที่ไม่เพียงพอ โดยจะมอบหมายให้รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรี ยังให้ความสนใจสอบถามการดำเนินการของโรงพยาบาลนวุติสมเด็จย่า ซึ่งสังกัดโรงพยาบาลตำรวจ โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อ เป็นสวัสดิการให้กับกำลังพลทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
โดยภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ บช.ตชด. นายกฯ และคณะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศทหารกองบิน 23 ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เพื่อเป็นประธานในการเปิดกิจกรรมงานรวมพลังชุมชน สู้ภัยยาเสพติด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567.-316.-สำนักข่าวไทย