2แก๊งรีดเงินชาวซีเรียยังให้การภาคเสธชนวนขัดแย้งเรื่องชู้สาว

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- 2 แก๊งรีดเงินชาวซีเรียยังให้การภาคเสธ ยันไม่เคยอ้างเป็นตำรวจอาสา ส่วนชนวนก่อเหตุเบื้องต้นเกิดจากความขัดแย้งเรื่องชู้สาว ขณะที่พ่อผู้เสียหายไม่ติดใจอยุ่ระหว่างช่วยเหลือลูกชายไม่ให้ถูกส่งกลับซีเรีย


ตำรวจสน.ลุมพินีคุมตัวนายคาซาล อาเกจ ชาวซีเรีย  และนายอิสลาม ชาวอียิปต์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ในข้อร่วมกันฉ้อโกงฯ มาสอบสวน หลังผู้เสียหายคือ นาย อัลฮลาบิ โมฮัมหมัด ยาสเซอร์ ชาวซีเรีย เข้าร้องขอให้กระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือเนื่องจากถูกกลุ่มที่แอบอ้างตัวเป็นอาสาสมัครตำรวจ เรียกเงินจำนวนกว่า 5 แสนบาท แลกกับการไม่ให้นายอัลฮลาบิ โมฮัมหมัด วาเอล บุตรชาย ถูกดำเนินคดีข้อหาอยู่อาศัยในประเทศไทยเกินระยะเวลาที่กำหนด     

พลตำรวจโท ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยเบื้องต้นหลังการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังคงให้การภาคเสธ แต่ยืนยันว่าไม่มีตำรวจมาเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว และตนไม่เคยอ้างเป็นเป็นตำรวจอาสาในการเรียกเงินจากผู้เสียหาย   แต่จากการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทราบว่ามูลเหตุเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวเรื่องชู้สาว ระหว่างนายอิสลามและผู้เสียหาย นายอิสลามจึงแจ้งข้อมูลให้ตำรวจเข้าตรวจสอบผู้เสียหายโดยอ้างว่าเกี่ยวข้องยาเสพติดแต่เจ้าหน้าที่ไม่พบความผิด แต่เมื่อตรวจสอบพาสปอร์ตจึงพบว่าอยู่เกินกำหนด จึงส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย จนล่าสุดอยู่ในขั้นตอนกักตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 


หลังจากนั้นนายอิสลาม จึงสบช่องโอกาสติดต่อบิดาของผู้เสียหายเพื่อเรียกรับเงินในการช่วยเหลือไม่ต้องถูกผลักดันกลับประเทศซีเรียต้นทาง รวม4 ครั้งเป็นเงินจำนวนเงิน 655,000 บาท  ซึ่งบิดาผู้เสียหายหลงเชื่อ 

ด้านบิดาของผู้เสียหายเดินทางมายืนยันตัวผู้ต่องหาที่สน.ลุมพินีพร้อมระบุว่าที่หลงเชื่อเนื่องจากเคยทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา เคยช่วยให้ชาวซีเรียที่อยู่เกินกำหนดไม่ต้องถูกส่งตัวกลับได้จริง จึงคิดว่าจะให้ความช่วยเหลือลูกชายของตนเองได้ แต่ยืนยันว่าไม่ติดใจใดๆทางคดีแล้ว หลังตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ และทราบว่าเรื่องนี้ไม่มีตำรวจเกี่ยวข้อง ส่วนนายอิสลามนั้นเป็นเพียงล่ามอาสาเท่านั้น

ส่วนขั้นตอนทางกฎหมายของบุตรชายอยู่ระหว่างขอความช่วยเหลือยูเอ็นเนื่องจากซีเรียเป็นประเทศที่มีภาวะสงครามจึงอาจขอให้ส่งตัวไปประเทศที่3 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง