17 มิ.ย. – ลูกเรือน้ำมันเถื่อน 11 คน เข้ารายงานตัวกับตำรวจ ปอศ. ตามหมายเรียก หลังเรือหาย ตำรวจระบุส่วนใหญ่เป็นคนไทย ส่วนคนต่างด้าวมีครอบครัวเป็นคนไทย จึงไม่คิดหลบหนี ส่วนที่เหลือต้องรอชักลากเรือเข้าฝั่งไทยและสอบถามอย่างละเอียดว่าหลบหนีด้วยสาเหตุอะไร
ทนายความพาลูกเรือน้ำมันเถื่อน 11 คน เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ตามหมายเรียก หลังเกิดเหตุเรือน้ำมันของกลาง 3 ลำ หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมลูก 15 คน โดยทั้งทนายความและลูกเรือปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
พันตำรวจเอก ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการกองกำกับการ 2 บก.ปอศ. เจ้าของคดี เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกลูกเรือน้ำมันเถื่อนที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 มีนาคม รวม 5 ลำ ทั้งหมด 28 คน ซึ่งมีทั้งคนไทยและต่างด้าว เพื่อคัดกรองและตรวจสอบจำนวนลูกเรือที่ยังอยู่ในประเทศ และจำนวนผู้ต้องหาที่หลบหนี
เบื้องต้นพบว่ามีลูกเรือหลบหนีไปกับเรือทั้ง 3 ลำ จำนวน 15 คน และยังอยู่ในประเทศอีก 13 คน โดยในจำนวน 13 คน นายประกันนำตัวมารายงานตัวในวันนี้ได้ 11 คน ส่วนอีก 2 คน เป็นคนไทย 1 คน เมาหลับอยู่ในเรือ จึงไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ และต่างด้าวอีก 1 คน ยังคงอยู่ในพื้นที่ ซึ่งพนักงานสอบสวนขอให้นายประกันเร่งติดตามมาพบพนักงานสอบสวนโดยด่วน เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิการประกันตัว
ส่วนผู้ต้องหา 15 คน ที่หลบหนีไปพร้อมกับเรือ 3 ลำ พนักงานสอบสวน ปอศ. เตรียมถอนประกัน เนื่องจากผิดสัญญาประกัน พร้อมทั้งเตรียมออกหมายจับฐานหลบหนีประกันตัว ซึ่งนายประกันจะต้องเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้ ในส่วนของคดีขโมยเรือเป็นอำนาจหน้าที่ของกองปราบปราม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสืบสวนขยายผลว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง และมีใครมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำดังกล่าวบ้าง
ส่วนคดีการจับกุมเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นความผิดเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากร ซึ่งถือเป็นคดีนอกราชอาณาจักร แต่กระทำผิดตามกฎหมายไทย ดังนั้น จึงมีอัยการเข้ามาร่วมสอบปากคำด้วย
สำหรับกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์กรณีตำรวจให้ประกันตัวลูกเรือทั้ง 28 คน ในวงเงิน 3.1 ล้านบาท ก่อนหน้านี้จนก่อให้เกิดปัญหาการหลบหนี ผู้กำกับการ ปอศ. 2 ชี้แจงว่าในกรณีดังกล่าวเป็นมติของที่ประชุมใหญ่ ที่มีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามน้ำมันเถื่อนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปนม.ตร. มีมติร่วมกันว่าให้ประกันตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นลูกเรือทั้ง 28 คนได้ เนื่องจากเรือ 3 ลำ ทั้งหมด 5 ลำ มีปัญหาน้ำรั่วเข้าลำเรือ ซึ่งต้องดูดน้ำออกจากเรือตลอดเวลา หากไม่ดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เรือล่มได้ น้ำมันจะรั่วไหลลงทะเล ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะเกิดความเสียหายมหาศาล ซึ่งในกรณีนี้ ทนายความได้นำหลักทรัพย์ 3 ล้านบาท มายื่นขอประกันตัวลูกเรือ พร้อมให้สัจจะวาจาว่าจะควบคุมดูแลลูกเรือซึ่งเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด และจะให้ลูกเรือทั้งหมดเป็นผู้ดูแล
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดจะต้องให้ลูกเรือเป็นผู้ดูแลเรือ ทำไมเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ดำเนินการควบคุมดูแลเรือด้วยตนเอง ซึ่งน่าจะมีความรู้ความสามารถมากกว่า ผู้กำกับ ปอ.ส 2 ระบุว่าการควบคุมเรือแต่ละลำจะต้องใช้เจ้าหน้าที่รัฐลำละ 4 คนต่อผลัด 1 วันมี 4 ผลัด รวม 16 คนต่อเรือ 1 ลำ เรือมีทั้งหมด 5 ลำ จะต้องใช้กำลังพลจำนวนเท่าไร การใช้คนของเขาดูแลเรือของเขาเองจะดีกว่า ซึ่งเป็นผู้ที่รู้เรื่องระบบกลไกภายในเรือดีกว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้น
ส่วนกรณีของลูกเรือทั้ง 15 คนที่หลบหนีไปพร้อมเรือทั้ง 3 ลำนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้จนกว่าเรือทั้ง 3 ลำ จะถูกชักลากกลับมาเข้าฝั่งไทย และทำการสอบปากคำทั้งหมดเสียก่อน จึงจะทราบถึงสาเหตุของการหลบหนีดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย