สิงห์บุรี 22 ส.ค.-หนุ่มขโมยปืนฆ่าพ่อยังสาหัส หลังดวลปืนกับตำรวจ ผงะค้นห้องพักเจอระเบิดแสวงเครื่อง
จากกรณีนายสุรชัย หรือโอ ไชยนันท์ อายุ 36 ปี ขโมยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จากสนามซ้อมยิงปืนในกองพลทหารปืนใหญ่ ต.ท่าแค อ.เมือง จ.ลพบุรี จากนั้นได้นำไปยิง จ.ส.อ.ชัยยศ ไชยนันท์ ทหารสังกัด ร้อย สพ.ซบร.สน.โดยตรง กองพันสรรพวุธซ่อมบำรุงเขตหลัก ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ก่อนหลบหนีไป โดยบอกว่าจะไปฆ่าแม่อีกคนนั้น
ความคืบหน้าเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี สืบทราบว่ามีบุคคลต้องสงสัยมาพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงนำกำลังมาตรวจสอบทราบว่า ผู้ต้องสงสัยออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารไม่มีชื่อแห่งหนึ่งพื้นที่หมู่ 7 ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปพบรถจักรยานยนต์ ของ นายสุรชัย จอดอยู่ แต่เมื่อ นายสุรชัย ได้รู้ตัวจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังปิดหัวปิดท้ายถนน นายสุรชัย ได้เปิดฉากยิงใส่ก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องยิงป้องกันตัวจนเกิดการประทะกันขึ้น หลังสิ้นเสียงปืนพบว่า นายสุรชัย ถูกยิงเข้าที่ศีรษะกระสุนฝังใน รวมถึงที่มือ ต้นขา และหน้าแข้ง รวม 4 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบนำตัวส่ง ร.พ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมเข้ม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล๊อก จำนวน 1 กระบอก กระสุน 2 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถาม นายศราวุธ ชัยรัตน์ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ นายสุรชัย เล่าว่า แม่ของนายสุรชัย ได้โทรมาเล่าว่า หลังจากที่ นายสุรชัย ยิงผู้เป็นพ่อจนเสียชีวิตแล้ว และกำลังจะมาที่ จ.สิงห์บุรี แม่ของ นายสุรชัย จึงได้หลบหนีไปพักที่บ้านของญาติ และนายสุรชัย จะมาก่อเหตุดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จากการตรวจค้นห้องพักพบระเบิดแสวงเครื่องประกอบเสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งาน จำนวน 2 ลูก เบื้องต้นได้อายัดตัวไปดำเนินคดีในข้อหา พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ พกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง ซึ่งเป็นข้อหาที่ถูกตั้งขึ้นหลังมาก่อเหตุดวลปืนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี นอกจากนี้ยังมีหมายจับในจังหวัดลพบุรีในข้อหาฆ่าบุพการีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้อาการของนายสุรชัย ยังสาหัส และอยู่ในการดูแลของแพทย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยคุ้มกันอย่างหน้าแน่น หากรักษาตัวจนหายดี ก็จะถูกนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย