ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ ยัน “ทักษิณ” พาดพิงคนบ้านในป่า ต้องมีการพูดคุยกัน ยันไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วม เผยไม่เคยคุย “พล.อ.ประวิตร” โดยตรง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคนแถวบ้านในป่า จะกระทบต่อตัวนายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลในการทำงานร่วมกันหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าตนได้พูดไปแล้วเมื่อวาน (9 มิ.ย.67) และการสื่อสารพูดคุยของแต่ละคน ผู้ใหญ่บ้านเมืองทุกคนมีความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง แต่ละคนก็มีข้อมูลแตกต่างกันไป หน้าที่ตนในฐานะแกนนำรัฐบาล ของพรรคร่วมรัฐบาล เรามีปัญหาอะไรก็มีหน้าที่ต้องมาพูดคุยกัน
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ต้องมีการพูดคุยกัน ต้องดูถึงขั้นที่สองขั้นที่สามที่จะตามมา แต่ในฐานะผู้นำรัฐบาล เราก็มีความประสงค์ที่จะให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้ดี ซึ่งมาถึงวันนี้ อยู่ด้วยกันมาก็ต้องมีข้อเห็นต่างบ้าง เราก็ต้องมาพูดคุยในส่วนที่เห็นต่างว่าจะแก้ไขอย่างไร
เมื่อถามอีกว่าการสัมภาษณ์ของนายทักษิณ มีการพูดพาดพิงไปถึงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้เกิดความหมางใจกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านายทักษิณหมายถึงใคร เมื่อถามย้ำว่าในทางการเมืองก็รับรู้ว่าคนในป่าหมายถึงบ้านของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่เคยเจอ พล.อ.ประวิตร ทุกครั้งจะเป็นการพูดคุยผ่านตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นน้องชาย พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมย้ำว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร โดยตรง
ส่วนการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงบ่ายวันนี้นั้น นายเศรษญา กล่าวว่า ตนเองไม่แน่ใจว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ เพราะไม่ได้อยู่ในตารางงาน ซึ่งการประชุมแค่หัวหน้าพรรค หรือตัวแทนพรรคน่าจะดีกว่า เพื่อให้ทุกคนมีพื้นที่ในการพูดคุยกันได้ หากบางอย่างตนเองทำไม่เหมาะสม แล้วตนเองอยู่ในที่ประชุม ก็อาจจะไม่กล้าพูดกัน วิธีการแก้ไขปัญหามีหลายวิธี ขอให้มาพูดคุยกันโดยตรง หรืออ้อมไปอีกทาง ก็จะนิ่มนวลกว่า และไม่ทำร้ายจิตใจซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นวิธีที่เราพยายามแก้ไขปัญหาในสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อถามย้ำว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ จะไม่ทำให้หนักใจในเรื่องการบริหารงานใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนเองหนักใจ และไม่สบายใจ เพราะทุกๆ เรื่องก็มีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่เราต้องโฟกัสในหน้าที่ที่เราถูกมอบหมายมา คือดูแลพี่น้องประชาชน.-317.-สำนักข่าวไทย