จ.ชัยภูมิ 21 ส.ค.-รมว.ยุติธรรม นำคณะลงพื้นที่แก้ปัญหาหนี้สินประชาชน พบชาวชัยภูมิ ประสบปัญหาเข้าถึงความยุติธรรมมากที่สุดใน 20จังหวัดภาคอีสาน พร้อมเตรียมเรียกประชุมทบทวนรูปแบบการรับเรื่องร้องทุกข์ ให้เหมาะกับพื้นที่ และกำชับผู้บริหารส่วนกลางต้องลงพื้นที่ติดตามงานทุกเดือน
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ เทศบาลตำบลตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ พบปะประชาชนเพื่อรับทราบปัญหา และหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ภายใต้โครงการยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐ สู่ประชาชน หลังการพูดคุย ได้มอบเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมมีนโยบายมุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดกับประชาชนทุกระดับ ทุกพื้นที่ โดยกระทรวงฯร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั่วประเทศ ในรูปแบบศูนย์ยุติธรรมชุมชน ปัจจุบันจังหวัดชัยภูมิมีการจัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชน จำนวน 142 ศูนย์ และมีการพัฒนาเครือข่ายยุติธรรมชุมชนและคณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน ให้มีศักยภาพในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ และการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ในชุมชน รวมถึงให้บริการประชาชน โดยมีสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชัยภูมิเป็นหน่วยงานหลัก ทั้งการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในด้านกฎหมาย สิทธิและเสรีภาพ และช่องทางการขอรับความช่วยเหลือ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทั่วถึง
นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อไปว่าการเลือกมาจ.ชัยภูมิ เนื่องจากพบว่าประชาชนประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความยุติธรรมเป็นจำนวนมาก โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2559 มีผู้เสียหายจากกระบวนการยุติธรรมมาขอรับการเยียวยาจำนวน 237 รายและมีผู้ร้องขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับหนี้สิน ภาคประชาชน จำนวน 554 ราย ส่วนในปีงบประมาณ พ.ศ.2560 มีผู้ขอรับคำปรึกษาทางกฎหมาย จำนวน 172 ราย มีผู้มายื่นขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม จำนวน 58 ราย ซึ่งปัญหาสำคัญที่สุดคือ การถูกเจ้าหนี้นอกระบบหลอกลวงเกี่ยวกับการทำนิติกรรม และการหลอกลวงขอเช่าโฉนดที่ดินจากประชาชนเพื่อนำไปขายฝาก
เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปรียบเทียบเป็นสัดส่วนต่อประชากร 1 แสนคน พบว่า มีผู้ขอรับคำปรึกษาทางกฎหมาย มีสัดส่วน 15.11 ราย ขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมในจังหวัดชัยภูมิ มีสัดส่วน 5.09 ราย ผู้เสียหายจากกระบวนการยุติธรรมมาขอรับการเยียวยาในจังหวัดชัยภูมิ มีสัดส่วน 20.8 ราย ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับหนี้สินภาคประชาชนในจังหวัดชัยภูมิ มีสัดส่วนถึง 48.67 ราย ถือเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะการร้องเรียนเกี่ยวกับหนี้สินภาคประชาชนที่มีจำนวนผู้ร้องเรียนมากที่สุด และคิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรสูงที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำหรับการให้ความช่วยเหลือในส่วนประชาชนของศูนย์ยุติธรรมในแต่ละพื้นที่ยังมีประสิทธิภาพไม่เท่าเทียมกัน จุดเริ่มต้นในการร้องเรียนจะเริ่มที่ อบต.ของแต่ละพื้นที่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ยุติธรรมจังหวัด และหากยังไม่ได้รับการช่วยเหลือขอให้มาที่ส่วนกลางคือกรุงเทพฯ ยืนยันจะต้องให้ความช่วยเหลือถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับไปกรุงเทพฯจะมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้ทบทวนรูปแบบการรับเรื่องร้องทุกข์ให้เหมาะกับพื้นที่ และจะย้ำให้ผู้บริหารจากส่วนกลางต้องลงพื้นที่ติดตามงานทุกเดือนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการทำงานบริการ
ประชา ชนอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมได้ปรับปรุงกระบวนการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและผู้เสียหายจากกระบวนการยุติธรรมให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและปรับลดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการจากเดิมที่การพิจารณาให้ความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมใช้เวลา 43 วันทำการ และการพิจารณาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาใช้เวลา 72 วัน (รวมวันหยุดราชการ) ให้เหลือไม่เกิน 45 วัน (รวมวันหยุดราชการ) .-สำนักข่าวไทย