รมว.อุตฯ ลงพื้นที่โคราชหนุนอุตสาหกรรม 4.0

นครราชสีมา 21 ส.ค. – รมว.อุตฯ ลงพื้นที่เยี่ยมสถานประกอบการจังหวัดนครราชสีมา หนุนอุตสาหกรรม 4.0 เน้นหุ่นยนต์ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์



นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  ลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานประกอบการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมหารือแนวทางความร่วมมือลักษณะประชารัฐ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเข้าเยี่ยมชมแห่งแรก คือ  บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของรถยนต์ที่สำคัญของไทย มีเทคโนโลยีและโนว์ฮาวการผลิตระดับสูง มาตรฐานเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนระดับโลก ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรปมากว่า 30 ปี  การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดใหญ่ ถือเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล 


ทั้งนี้ มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาช่วยกระบวนการหล่อโลหะและตกแต่งชิ้นงาน รองรับการผลิตเครื่องยนต์ เครื่องส่งกำลัง ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ บิ๊กไบค์ เครื่องจักร ให้กับยี่ห้อโตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ ฟอร์ด เพื่อต้องการดึงบริษัทเอกชนรายใหญ่มาร่วมกับรัฐบาลในรูปแบบประชารัฐ ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ หุ่นยนต์ พัฒนาบุคลากร ร่วมกับสถาบันการศึกษาในนครราชสีมา เพื่อพัฒนาให้เป็นแรงงานคุณภาพ ควบคุมหุ่นยนต์ หรือเป็นแรงงานคุณภาพสูง และยังเชิญบริษัท พี.ซี.เอส. ร่วมถ่ายทอดความรู้ให้กับเอสเอ็มอีขนาดเล็ก เพื่อช่วยผลิตสินค้าต่อเนื่องส่งให้กับรายใหญ่ รวมทั้งพัฒนาด้านการอนุรักษ์พลังงาน โดยการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าบนหลังคารายใหญ่ในประเทศกำลังไฟฟ้าถึง 5 เมกะวัตต์ ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 5 ล้านบาทต่อเดือน

นายอุตตม  กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมที่ไม่ใช่การเงิน เช่น มาตรการเพิ่มศักยภาพการผลิต มาตรการเพิ่มศักยภาพด้านการเงินและการบัญชี มาตรการยกระดับมาตรฐานสินค้า มาตรการส่งเสริมด้านการตลาด มาตรการยกระดับศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี รวมทั้งการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และการพัฒนาพื้นที่อย่างมีศักยภาพ เพื่อรองรับการลงทุน โดยในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น และมุกดาหาร ที่ปัจจุบันได้จัดทำแผนพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเรียบร้อยแล้ว 

นอกจากนี้ ยังทำการศึกษาพื้นที่อุตสาหกรรมที่มีความหนาแน่นและพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด คือ นครราชสีมา ขอนแก่น ร้อยเอ็ด อุดรธานี หนองคาย อุบลราชธานี และนครพนม เพื่อกำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรม โดยก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหารและร่วมหารือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนในพื้นที่ และสั่งการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) พิจารณาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนเพิ่มขึ้นในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง