กาฬสินธุ์ 1 มิ.ย. – “อนุทิน” เป็นประธานเปิดงานบุญบั้งไฟแพรวา จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวอีสาน กำชับทุกจังหวัดดูแลการละเล่นตามประเพณี ปลอดภัยไม่กระทบการบิน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (1 มิ.ย. 2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟแพรวา 2567 ณ ตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งทุกภาคส่วนทั้งราชการ เอกชน ประชาสังคม ประชาชน ร่วมกันจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับทุกปี
สำหรับงานซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พ.ค.-2 มิ.ย. 2567 องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดให้มีกิจกรรมหลากหลายเพื่อสืบสานวัฒนธรรมอันดีงาม ตำนานบุญบั้งไฟ ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีเฉพาะในภาคอีสาน ทั้งในรูปแบบการแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม การแสดงพื้นบ้าน พร้อมกับกิจกรรมเพื่อส่งเสริมอาชีพ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อาทิ การออกร้าน แสดงสินค้าชุมชน การฝึกอบรม ประกวดออกแบบชุดผ้าไหมแพรวาและผ้าพื้นเมือง ส่วนของการแห่บั้งไฟ จัดขึ้นในวันนี้ (1 มิ.ย. 67) มีขบวนแห่เข้าร่วมอย่างยิ่งใหญ่กว่า 20 ขบวน แต่ละขบวนจะประดับตกแต่งด้วยผ้าไหมแพรวา อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างสวยงาม รวมถึงมีการประกวดขบวนแห่ความคิดสร้างสรรค์เชิงวัฒนธรรมของเยาวชน
นายอนุทิน กล่าวว่า งานประเพณีบุญบั้งไฟแพรวา ซึ่งจัดโดยชุมชนชาวผู้ไทบ้านโพน ปีนี้ยังคงยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับทุกปี นอกจากจะเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานแล้ว ยังได้ประชาสัมพันธ์ผ้าไหมแพรวา ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น สอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลได้ผลักดันให้มีการนำทุนทางวัฒนธรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของชุมชน
“ตนขอชื่นชมทุกภาคส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ที่จัดงานใหญ่ในครั้งนี้จนสำเร็จ และขอนำคำชื่นชมนี้ไปยังพี่น้องคนอีสานทุกคนที่ท่านสามารถรักษาประเพณีอันยิ่งใหญ่ การละเล่นสนุกสนานและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะภูมิภาคเช่นนี้มาได้อย่างยาวนาน ตนขอให้ชาวกาฬสินธุ์ และชาวอีสานทุกคน อนุรักษ์ สืบสาน ประเพณีบุญบั้งไฟให้คงอยู่ตลอดไป และขอให้คิดต่อยอดให้ประเพณีนี้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางสังคม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เกิดงานและอาชีพในท้องถิ่นให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป” นายอนุทิน กล่าว
รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ในช่วงนี้ที่หลายพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วภาคอีสานมีเทศกาลบุญบั้งไฟ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด กำชับกับฝ่ายปกครอง ทั้งอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ ให้ดูแลให้มีการละเล่นและจุดบั้งไฟให้เป็นไปตามมาตรการดูแลความปลอดภัย จังหวัดใดที่อยู่ในเส้นทางการบินของอากาศยานประเภทต่างๆ ให้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยมีการแจ้งการจัดงาน แจ้งกำหนดช่วงเวลา พื้นที่การจุดบั้งไฟ เพื่อท่าอากาศยานต่างๆ สามารถประสานกับสายการบินและบริหารจัดการความเสี่ยง ป้องกันอันตรายที่จะเกิดต่ออากาศยาน ชีวิต ทรัพย์สินของผู้โดยสารและประชาชนด้วย.-311-สำนักข่าวไทย