นนทบุรี 24 พ.ค. – ผลชันสูตรพบเขม่าในปอดเด็กทั้ง 3 ศพที่ถูกไฟคลอกดับคากุฏิวัดสวนแก้ว ด้านพระพยอมลั่น ไม่เลิกรับอุปการะเด็ก แต่ต้องทำสัญญาไม่เรียกร้องหากเสียชีวิต
เหตุการณ์ในคืนวันวิสาขบูชา 22 พฤษภาคม ตั้งแต่ช่วงประมาณ 22.15 น. หนึ่งในเด็กชายที่เสียชีวิต วิ่งเล่นหน้ากุฏิ สังเกตว่าในมือของเด็ก ถือที่วางเทียน จากนั้นวิ่งเข้าไปในกุฏิ ห่างกันประมาณชั่วโมงกว่าๆ เวลา 23.29 น. มีแสงไฟของเพลิงไหม้ ขณะที่พระรูปหนึ่งได้วิ่งออกมาดู และพยายามดับไฟ พร้อมกันเรียกให้คนมาช่วยดับไฟ จากนั้นก็มีพระและเจ้าหน้าที่ของวัดได้ช่วยกันดับไฟ ไม่กี่นาที แสงไฟก็ดับไป
ที่เกิดเหตุ มีเด็กเสียชีวิต 3 คน คือ น้องเอ็ม–น้องเอส อายุ 11 ปี เป็นฝาแฝดกัน และอีกคน คือ ด.ช.ธีรพงษ์ อายุ 9 ปี ภาพวงจรปิด ทางวัดได้นำออกมาเผยแพร่เพื่อยืนยันว่าไม่มีการล็อกประตูกุฏิ ตามที่มีตั้งข้อสงสัยว่าเป็นต้นเหตุให้เด็กออกมาไม่ได้ หรือไม่ เพราะในภาพจะเห็นเด็กวิ่งเข้าวิ่งออกกุฏิได้ตามปกติ
ล่าสุด วันนี้ ผลชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กทั้ง 3 คน ออกมาแล้ว เบื้องต้น พบว่ามีเขม่าควันในปอดของเด็ก ขณะทางญาติได้เดินทางมาติดต่อเพื่อขอรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องรอประมาณ 30-40 วัน
พระพยอม บอกด้วยว่า ตอนนี้ทางวัดได้ปรับปรุงกุฏิเก่าไปแล้วบางส่วน สำหรับกุฏิที่ถูกไฟไหม้ สร้างมานานแล้วเกือบ 20 ปี ช่วงที่สร้างตอนนั้น พระพยอมได้ลาจากการเป็นเจ้าอาวาสไป 7 ปี ทางลูกศิษย์ได้ออกแบบเป็นโครงเหล็ก เมื่อมาเห็นก็คิดว่ามันอันตราย พยายามสร้างกุฏิขึ้นมาใหม่ มีการปรับเรื่องไฟฟ้าให้ปลอดภัย กุฏิที่เกิดเหตุไม่มีพระอยู่ เด็กเลยแอบเข้าไปนอนเล่น และตอนนี้ยังไม่รู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ยังไม่ได้สอบถามเด็กที่รอดชีวิต เพราะเด็กต้องไปโรงเรียน เสาร์-อาทิตย์นี้ คงได้พูดคุยกัน ส่วนทางญาติก็ได้มีการพูดคุยไปบ้างแล้ว เบื้องต้นทางวัดจะดูแลเรื่องจัดงานศพ โดยญาติไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆ ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวก็จะพิจาราณาอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร
พระพยอม ยอมรับ ถือป็นบทเรียน ที่ผ่านมาเด็กที่อุปการะก็มีเสียชีวิต แต่ไม่ใช่ลักษณะแบบนี้ ซึ่งต่อไป หากใครนำลูกหลานมาฝากให้ดูแล คงต้องทำเป็นหนังสือสัญญา กรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด จากเหตุการณ์นี้มีคนให้กำลังใจและบอกให้เลิกรับเด็กมาอุปการะ แต่พระพยอมบอกว่า ทำไม่ได้เพราะเขาเดือดร้อน ถ้าเราไม่รับไว้ ต่อไปเขาโตขึ้นมา ก็จะมีปัญหาในสังคม
พระพยอม ยังฝากถึงญาติโยม ให้ระวังมิจฉาชีพ เพราะมีการแอบอ้างไปเดินรับบริจาคอ้างว่านำมาให้วัดสวนแก้ว ขออย่าหลงเชื่อ หากประสงค์จะบริจาค ก็ให้มาที่วัด หรือโอนเข้าบัญชีวัด ทางวัดสวนแก้วไม่มีการเดินรับบริจาคเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย
