fbpx

BTS แจงตรวจสอบชายลวนลามสาว ไม่เกิน 1 นาที หลังก่อเหตุ

สมุรปราการ 8 พ.ค. – BTS แจงกรณีชายลวนลามสาว เข้าตรวจสอบพื้นที่ในเวลาไม่ถึง 1 นาที ไม่ใช่รับทราบเรื่องแล้วเมินเฉยอย่างที่เป็นข่าว ย้ำขอให้ผู้โดยสารมั่นใจในความปลอดภัย


จากเหตุการณ์ นายสุทัศน์ อายุ 26 ปี ใส่เสื้อมีฮู้ดแขนยาวสีดำ กางเกงสามส่วน กำลังช่วยตัวเองอยู่ริมบันไดเลื่อนทางขึ้น แต่เมื่อหันไปเห็นหญิงอายุ 30 ปี ขึ้นบันไดเลื่อนมาถึง ก็พยายามลวนลามผู้เสียหาย ด้วยการจูบ หอมแก้ม ซึ่งผู้เสียหายพยายามต่อสู้จนล้มลง จากนั้น นายสุทัศน์ ผู้ก่อเหตุ ยังพยายามถอดเสื้อผ้าผู้เสียหาย ระหว่างนั้นผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้หนุ่มหื่นใช้มือชกหน้าผู้เสียหายหลายครั้ง จนมีคนเดินมาเห็น ผู้ก่อเหตุจึงชิงกระเป๋าสะพายพร้อมทรัพย์สินของผู้เสียหาย วิ่งหนีลงบันได และขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใต้สถานีหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสการเคหะ สมุทรปราการ ถ.สุขุมวิท ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ซึ่งต่อมา ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทันควันพร้อมของกลางทรัพย์สินของผู้เสียหาย

เหตุการณ์นี้ ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของสถานีรถไฟฟ้า BTS และการให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย วันนี้ (8 พ.ค.) นายสุมิตร ศรีสันติธรรม ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า รปภ. บีทีเอส เข้าไปจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว หลังได้รับแจ้งจากผู้โดยสารหญิง เมื่อเวลา 09.38 น. ว่าพบเห็นชายชุดดำทำอนาจารบริเวณบันไดเลื่อน ทาง รปภ.จึงแจ้งนายสถานี เพื่อจะเข้าไปจุดเกิดเหตุ แต่ระหว่างนั้น เวลา 09.38.33 น. (เวลาผ่านมา 33 วินาที) ผู้ก่อเหตุก็เข้าลวนลามผู้โดยสารสาว ซึ่ง รปภ. ไปถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วในเวลาไม่เกิน 53 วินาที เป็นเวลาประมาณ 09.39 น. รีบหยุดบันไดเลื่อน และวิ่งตามคนร้ายไป แต่ไม่พบ จากนั้นเวลา 09.40 น. รปภ. กลับมาบริเวณบันไดเลื่อน และแจ้งห้องควบคุมการเดินรถขอประสานตำรวจ และเคลียร์พื้นที่ จนเวลา 09.43 น. นายสถานีนำผู้เสียหายพักที่ห้องพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ทั้งนี้ ตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเวลา 09.58 น. ซึ่งทางบีทีเอสส่งมอบภาพกล้องวงจรปิดให้ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานติดตามคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว และเวลา 10.16 น. ผู้เสียหายเดินทางไปกับตำรวจเพื่อแจ้งความ และตำรวจตามจับคนร้ายในเวลาไม่นาน พร้อมแถลงข่าว เมื่อเวลา 16.00 น. ในวันเดียวกัน ขอยืนยันว่า บีทีเอสดำเนินการซ้อมดูแลผู้โดยสารมาโดยตลอด และกรณีนี้ก็ถือว่าดำเนินการอย่างรวดเร็ว การมีกล้องวงจรปิดก็ช่วยป้องปรามคนร้าย 4,500 ตัว ใน 60 สถานี ของสายสีเขียว-สีทอง ทำให้จับกุมคนร้ายอย่างรวดเร็ว แต่เหตุการณ์นี้ ผู้ก่อเหตุขาดสติเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ที่ไม่ใช่ที่เปลี่ยว ซึ่งทางบีทีเอสมีศูนย์ดูแลความปลอดภัยที่ราชดำริและสถานีห้าแยกลาดพร้าว โดยมีเจ้าหน้าที่ดูกล้องวงจรปิดอย่างต่อเนื่อง และ มี รปภ. ดูแลทั้ง 2 ฝั่งขึ้น-ลงและชานชาลา จึงสามารถระงับเหตุรวดเร็ว

และเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ ผู้เสียหายพร้อมแฟนหนุ่ม และแม่ เข้ามาติดตามความคืบหน้าของคดี กับ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตนเองสภาพจิตใจย่ำแย่ เกิดอาการแพนิก ภาวะตื่นตระหนกตลอดเวลา จากที่เป็นคนไปไหนมาไหนคนเดียว ตอนนี้กลัวผวาไม่กล้าไปคนเดียวแล้ว ไม่สามารถจะไปไหนคนเดียวได้เหมือนแต่ก่อน ต้องให้แฟนกับแม่พาไป ตนมองว่าบีทีเอส เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด แต่พอเกิดเรื่องนี้ ตนเองไม่มีความเชื่อมั่นแล้ว อยากให้ทางบีทีเอสจัด รปภ. ตรวจตราให้มากกว่านี้ หรือถ้ามีคนไปแจ้งว่ามีคนเข้ามาทำพฤติกรรมลักษณะแบบนี้ ควรรีบเข้ามาจัดการ เพราะมันเป็นภัยสังคมและอันตรายมาก อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ที่ไม่นิ่งนอนใจ ใช้เวลาหลังแจ้งความไม่ถึง 3 ชั่วโมง ก็จับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้