กรุงเทพฯ 30 เม.ย.-“พจน์” ชี้ปรับรัฐมนตรีด้าเศรษฐกิจ ใน ครม.เศรษฐา 1/1 ทำให้มีเสถียรภาพขึ้น เสียดาย “ปานปรีย์” เชื่อนายกฯ หาคนที่เหมาะสม ได้ ค้านขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเท่ากันทั่วประเทศ ชี้เป็นดาบสองคม
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ คนที่ 1 หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นดาบสองคม บางธุรกิจสามารถปรับขึ้นได้ แต่บางธุรกิจอาจได้รับผลกระทบในเชิงผลเสียมากกว่าผลดี ส่วนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ มองว่าจะเกิดปัญหากับหลายจังหวัด เนื่องจากยังไม่มีความพร้อม เช่น จังหวัดน่าน และจังหวัดแพร่ จะเห็นว่าแทบไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมโรงแรมที่พักมีน้อย หากขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทเชื่อว่าจะเกิดปัญหาแน่นอน ย้ำว่าตนเองคัดค้านการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเท่ากันทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม มองว่าควรขึ้นค่าแรงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเหมาะสมจริงๆ และเป็นอุตสาหกรรมที่มีแรงงานไทยในสัดส่วนที่มากกว่า หากไปขึ้นค่าแรงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นแรงงานที่ไม่ใช่คนไทยก็เท่ากับว่าเงินจะไหลไปนอกประเทศ ขณะที่ผู้ประกอบการไทยต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ โดยจะมีการหารือกับ รมว.แรงงาน อีกครั้ง
ส่วนการปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 โดยเฉพาะการปรับ รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ มองว่ามีเสถียรภาพมากขึ้น อย่างกระทรวงการคลัง ที่เป็นรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เป็นรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐทั้งหมด เชื่อว่าจะทำให้เกิดความร่วมมือในการทำงานมากขึ้น ส่วนกระทรวงพาณิชย์ได้นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็น รมช.พาณิชย์ มองว่า เป็นเรื่องดี เพราะมีภารกิจใหญ่ในขณะนี้ โดยเฉพาะเรื่องการส่งออก จะได้มาช่วยงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์
ส่วนเรื่องที่มองว่าน่าเห่วงคือ การที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ แต่ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมารับตำแหน่ง และร่วมงานกับภาคเอกชน ผลักดันการค้ากานลงทุน รวมไปถึงเอฟทีเอ เพราะขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในจุดสุ่มเสี่ยงมากในด้านภูมิยุทธศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ รวมไปถึงความขัดแย้งต่างๆ เพราะฉะนั้น บทบาทของกระทรวงการต่างประเทศในการวางจุดยืนของประเทศไทยเป็นสิ่งสำคัญ
“ผมมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีจะหาบุคคลที่เหมาะสมในการมารับตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ส่วนกระทรวงอื่นมองว่าเป็นเหล้าเก่าในแก้วใหม่” นายพจน์ กล่าว.-516-สำนักข่าวไทย