28 เม.ย. – สุดหดหู่ เด็กหญิงอายุ 16 ปี ถูกตาเลี้ยงที่ติดเชื้อ HIV ข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง หนำซ้ำก่อนหน้ายังถูกน้องชายของตาเลี้ยงข่มขืนในเล้าเป็ด นานกว่า 11 ปี
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ทีมงานประสานญาติผู้เสียหายพาตัวเด็กหญิงรายหนึ่ง อายุ 16 ปี มาพบที่สำนักงานเพื่อให้การช่วยเหลือ หลังครอบครัวติดต่อเพจสายไหมต้องรอด โดยแจ้งว่าเด็กหญิงถูกตาเลี้ยงซึ่งติดเชื้อ HIV ข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เด็กเคยถูกน้องชายของตาเลี้ยงข่มขืนมาแล้ว
น.ส.แหม่ม (นามสมมติ) น้าสาวแท้ๆ ของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า หลานสาวของตนเกิดมาโดยไม่มีพ่อ เนื่องจากพ่อเสียชีวิตตั้งแต่ ด.ญ.เอ อยู่ในท้อง พอหลานคลอดออกมา พี่สาวของตนซึ่งเป็นแม่ของหลาน ต้องปากกัดตีนถีบหาเงินมาซื้อนมให้หลานกิน
จนกระทั่งหลานอายุได้ 4 ขวบ พี่สาวของตนตัดสินใจไปทำงานร้านนวดแผนไทยที่ต่างประเทศ นายโจ ซึ่งเป็นน้องชายของพ่อเลี้ยงตน จึงอาสาขอหลานตนไปเลี้ยงดูที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เนื่องจากนายโจอยู่กับภรรยาเพียง 2 คน และไม่มีลูก พี่สาวและแม่ของตนซึ่งเป็นยายของหลาน เห็นว่าเป็นคนรู้จักจึงไว้ใจให้พาหลานไปเลี้ยงดู โดยทุกครั้งที่พี่สาวกลับมาจากต่างประเทศ จะเดินทางไปรับหลานมาเที่ยวเล่น และก่อนกลับจะให้เงินหลานไว้ไปโรงเรียนตลอด
ระหว่างที่พี่สาวทำงานอยู่ต่างประเทศ ตนและแม่จะคอยไปเยี่ยมหลาน แต่พบสิ่งที่ผิดสังเกต คือทุกครั้งที่ไปรับหลาน นายโจจะมีพฤติกรรมไม่พอใจตลอด ด่าทอ ห้ามไม่ให้พาหลานออกไปไหน จนผิดปกติ แต่เมื่อสอบถามหลานว่านายโจมีการล่วงละเมิดหรือไม่ หลานก็ส่ายหัว จึงคิดว่าไม่มีอะไร
กระทั่งหลานขึ้นชั้น ม.1 นายโจได้ย้ายบ้านมาอยู่ที่รังสิต ตนและแม่ได้เดินทางไปรับหลานไปเที่ยวน้ำตกที่ จ.นครนายก ซึ่งมีญาติและเพื่อนๆ ไปด้วยกันหลายคน ประมาณ 4 ทุ่ม จึงพาหลานมาส่งที่บ้านนายโจ ย่านรังสิต เมื่อมาถึงบ้าน นายโจได้ถือมีดออกมาจะทำร้ายพวกตน และตะโกนด่าทอ ห้ามพวกตนมารับหลานไปอีก ตนจึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจ และสอบถามหลานว่าต้องการอยู่กับนายโจต่อหรือไม่ หลานได้ปฏิเสธ พี่สาวตนจึงตัดสินใจไม่ไปทำงานต่างประเทศ รับหลานกลับมาอยู่ที่บ้าน
กระทั่งหลานขึ้นชั้น ม.3 พี่สาวของตนล้มป่วย ไม่มีรายได้ หลานมาช่วยทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์ ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือ เนื่องจากตาเลี้ยงประกอบอาชีพขับรถเมล์ ต่อมาช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ตนรับหลานมาเที่ยวบ้าน และเห็นความผิดปกติของหลานที่มีอาการเซื่องซึม ไม่ค่อยพูดจา จึงพยายามสอบถามความจริง
สุดท้ายหลานจึงเล่าให้ฟังว่าถูกตาเลี้ยงข่มขืนกระทำชำเรามาโดยตลอด ตั้งแต่มาช่วยทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์ โดยอาศัยช่วงที่ยายไม่อยู่บ้าน ช่วงที่ยายออกไปซื้อกับข้าวที่ตลาดก่อเหตุ โดยสั่งห้ามไม่ให้บอกใคร หลานกลัวจึงไม่กล้าบอก ที่เลวร้ายกว่านั้นคือหลานเล่าให้ฟังว่านอกจากตาเลี้ยงที่ข่มขืนแล้ว ตอนเด็กๆ ที่ไปอยู่บ้านของน้องชายของตาเลี้ยงที่ อ.องครักษ์ ถูกน้องชายของตาเลี้ยง คือนายโจ ข่มขืนมาโดยตลอด ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.2 อายุ 7 ขวบ กระทั่งขึ้นชั้น ม.1 โดยสถานที่ที่ใช้ข่มขืนคือในเล้าเป็ด ซึ่งเป็นที่ลับตาคน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ให้นายโจจะมีอาการไม่พอใจทุกครั้งที่แม่หรือน้ามารับเด็ก
ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือล่าสุดตาเลี้ยงป่วยเป็นเอดส์ หรือ HIV จากการสอบถามหลานพบว่าทุกครั้งที่ถูกข่มขืน ตาเลี้ยงไม่เคยใส่ถุงยางอนามัยเลย จึงเชื่อว่าหลานน่าจะติดเชื้อไปด้วย ทำให้ตนกับญาติคับแค้นใจมาก
ด้านนายเอกภพ บอกว่าภายหลังรับแจ้งได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน เพื่อพา ด.ญ.เอ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตาเลี้ยงและน้องชายของตาเลี้ยง ที่ก่อเหตุข่มขืนทันที นอกจากนี้จะพา ด.ญ.เอ ไปตรวจร่างและตรวจหาเชื้อ HIV ว่าติดเชื้อหรือไม่ หากติดเชื่อจะได้พาเข้ารับการรักษาต่อไป จากนั้นจะประสานไปยังกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอรับเงินเยียวยาในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย