ผู้ช่วยพยาบาลเศร้าแม่วัย 60 ถูกเด็กแว้นซิ่งชนอาการสาหัส

กทม. 14 ส.ค.-เด็กแว้นอายุ14 ซิ่งจักรยานยนต์เสียหลักชนกระเป๋ารถเมล์หญิงวัย 60 อาการสาหัสกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา


ผู้สื่อข่าวรับแจ้งมีหญิงสูงวัยคนหนึ่งอาชีพกระเป๋ารถเมล์ ตกเป็นเหยื่อเด็กแว้น จนประสบอุบัติเหตุทางถนน ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และขณะนี้ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา คนไข้รายนี้ภายในห้อง ICU คือ นางสวงกนกนาค อายุ 60 ปี เป็นแม่ของนางสาวเบญจมาศ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลของโรงพยาบาล แพทย์ผู้ให้การรักษา บอกว่าอาการแรกรับผู้ป่วยรายนี้ ค่อนข้างสาหัส ซึ่งพบว่ามีทั้งกะโหลกศีรษะแตก เลือดออกในสมองเป็นจำนวนมาก ทางแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างเต็มกำลังความสามารถ ส่วนโอกาสที่จะกลับมาหายเป็นปกตินั้น น่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะศีรษะของผู้บาดเจ็บ ได้รับการกระแทกอย่างแรง 


นางสาวเบญจมาศ ผู้ช่วยพยาบาล บุตรสาวของผู้บาดเจ็บเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 04.00 น. ของวันที่ 12 สิงหาคม 2560 บริเวณถนนเพชรเกษม130 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มารดาที่มีอาชีพกระเป๋ารถเมล์สาย 81 ได้เลิกงานและกำลังเดินทางกลับบ้าน โดยซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของหลานชาย ระหว่างทางมีเด็กแว้นขี่แข่งกันมาบนถนนเพชรเกษมหลายคัน แล้วคันที่เด็กอายุ 14 ปีขับนั้น เสียหลักพุ่งมาชนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่แม่ของตนนั่งซ้อนท้ายมา จนร่างของแม่กระเด็นตกลงบนถนนศีรษะกระแทกพื้น ต้องเข้ารับการผ่าตัดสมอง ส่วนหลานชายซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์มีแผลถลอกเล็กน้อย โดยก่อนที่จะเกิดเหตุเพียง 1 วันนั้น ตนและพี่ชายอีกสองคนได้เตรียมสร้อยคอทองคำไว้ให้แม่ 1 เส้น ซึ่งเป็นเส้นที่แม่รักมาก เพราะสร้อยคอเส้นนี้ เป็นเส้นที่ลูกๆ รวมเงินกันซื้อให้แม่เมื่อตอนปีใหม่ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากมีช่วงหนึ่งแม่มีภาระที่จำเป็นต้องใช้เงิน จึงได้เอาสร้อยเส้นนี้ไปจำนำไว้ และอยากจะไถ่คืนออกมาให้ได้เร็วที่สุด จนกระทั่งพอถึงวันแม่ปีนี้ลูกๆ ทุกคนจึงได้รวมเงินกันไปไถ่คืนออกมาให้แม่ แต่ยังไม่บอกให้รู้เนื่องจากต้องการเก็บไว้ให้เป็นของขวัญวันแม่ และตั้งใจจะมอบให้ตอนกราบแม่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจากที่จะได้กราบแม่ ต้องกลายมาเป็นเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลแทน


เด็กแว้นอายุ 14 ปีที่ขับรถจักรยานยนต์ชนท้ายได้รับบาดเจ็บแขนหัก รักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.นครปฐม ขณะที่ด้านของคดีความนั้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และการเก็บรวบรวมพยายานหลักฐานต่างๆ ก่อนที่จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง