ระยอง 26 เม.ย. – กรมควบคุมมลพิษยังคงตรวจพบสารก่อการระคายเคืองทางเดินหายใจต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 รอบโรงงานวิน โพรเสส จ. ระยองที่เกิดไฟไหม้ อยู่ในระดับที่จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง เร่งออกคำแนะนำการปฏิบัติตัวให้ประชาชน ส่วนที่โรงงาน เจ้าหน้าที่เร่งจัดเก็บกากของเสียบางส่วน โดยยังคงมีเขม่าควันที่ปนเปื้อนไอกรด – ด่าง
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ติดตามผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานของ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด จังหวัดระยองซึ่งภายในโกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย โดยวานนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงต้องควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้บางจุดในโกดังที่ 5 และได้เกิดเพลิงลุกไหม้ในโกดังที่ 3 ขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้เร่งจัดเก็บขยะทั่วไป กากตะกรันอะลูมิเนียม และกากของเสียอื่นๆ ในช่วงเช้าวานนี้ สภาพอากาศปิด ทำให้มีกลุ่มควันปกคลุมอยู่ในระดับต่ำและมีเขม่าควันที่ปนเปื้อนไอกรด – ด่าง รวมถึงยังคงมีกลิ่นเหม็นจากเหตุเพลิงไหม้
สำหรับผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณภายนอกโรงงานและพื้นที่ชุมชนด้านท้ายลม ระยะห่างจากโรงงานไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 300 เมตรถึง 5 กิโลเมตร พบสารอะคริโลไนไตรล์ (Acrylonitrile) สารไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) และสารเมทิลเมอร์แคปเทน (Methyl Mercaptan) ในพื้นที่หมู่ 8 และ 11 ตรวจพบสารอะคริโลไนไตรล์ (Acrylonitrile) และสารไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) ในพื้นที่หมู่ 4 และ 11 โดยเป็นการตรวจพบต่อเนื่องนับจากวันที่ 24 เมษายน ส่วนวานนี้ (25 เมษายน 2567) เวลา 06.00 – 06.50 น. ตรวจพบสารเมทิลเมอร์แคปเทน (Methyl Mercaptan) ในพื้นที่หมู่ 4 จำนวน 2 จุด โดยสารเคมีที่ตรวจพบทั้ง 2 วัน อยู่ในระดับที่จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง
ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษรายงานข้อมูลผ่านศูนย์บัญชาการของจังหวัดระยองเพื่อให้ประชาชนรับทราบ รวมถึงออกคำแนะนำในการปฏิบัติตนเมื่อได้รับสัมผัสสารเคมีได้แก่ ให้ชำระล้างร่างกายให้สะอาดด้วยการฟอกสบู่และล้างด้วยน้ำ หากระคายเคืองตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาด เมื่อมีการสูดดมไอสารเคมีให้รีบออกจากพื้นที่โดยเร็ว พร้อมทั้งสังเกตอาการตนเอง กรณีเกิดอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ทันที เป็นต้น โดยสามารถเข้ารับบริการด้านสาธารณสุขจากศูนย์อพยพในพื้นที่ อบต. หนองบัวและอบต. บางบุตร
กรมควบคุมมลพิษจะร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มความถี่จุดตรวจวัดสารเคมีในบรรยากาศและขยายระยะห่างออกไปให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบซึ่งประชาชนสามารถแจ้งให้ตรวจสอบได้ทุกจุดที่ประชาชนมีความกังวลและขอให้ประชาชนยังคงพักที่ศูนย์อพยพ จนกว่าเหตุการณ์เพลิงไหม้จะยุติ และตรวจไม่พบไอระเหยสารเคมีจากเหตุการณ์เพลิงไหม้
ล่าสุดพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมกำชับให้ตรวจวัดการปนเปื้อนของสารเคมีอันตรายอย่างละเอียดทั้งในดิน น้ำ อากาศ พร้อมให้วิเคราะห์ทิศทางลมเพื่อแจ้งเตือนประชาชนหรือชี้จุดที่ปลอดภัย โดยให้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องทุกวัน วันละ 3 เวลา รวมทั้งให้ชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อเท็จจริง และสั่งการให้บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานหาแนวทางคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็วและถอดบทเรียนเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ. 512 – สำนักข่าวไทย