กรุงเทพฯ 3 เม.ย.-กสทช.ลงพื้นที่สยามพารากอน ติดตามการลงทะเบียนเพิ่มความรัดกุมและเร่งสกัดซิมผีเอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมยืนยันคนไทยจะได้ดูฟุตบอลโลก หากมีเอกชนเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด
พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยี และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปีตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลงานด้านอาชญากรรมเทคโนโลยี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการลงทะเบียนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่และการยืนยันตัวตน ณ ศูนย์บริการลูกค้าหลักของผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกข่าย ทั้ง AWN, TRUE และ DTAC ณ สยามพารากอน กรุงเทพฯ
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ มาจากการขยายผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อสัปดาห์ก่อน ตรวจยึดซิมผี กว่า 1,037 เลขหมาย พบว่าซิมบางส่วนซื้อมาจากตู้จำหน่ายชิม ไม่มีการลงทะเบียนผู้ใช้งานจริง หรือมีการลงทะเบียนด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และบางส่วนถูกระงับการใช้งานจากมาตรการยืนยันตนของ กสทช.
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามความรัดกุมในการลงทะเบียนซิมมือถือ การตรวจสอบข้อมูลบุคคลและเอกสารประกอบการลงทะเบียนซิม และติดตามความคืบหน้าในการยืนยันตัวตนของผู้ถือครองซิมจำนวนมากตาม ประกาศ กสทช. โดย กลุ่มที่ 1 (ผู้ที่ถือครองซิมการ์ด ตั้งแต่ 6-100 หมายเลข) จะครบกำหนด 180 วัน ในวันที่ 13 ก.ค.67 ที่จะถึงนี้ รวมไปถึง กลุ่มที่ 2 (ผู้ที่ถือครองซิมการ์ด 101 หมายเลข ขึ้นไป) ซึ่งได้ครบกำหนดไป ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา จากข้อมูลที่ กสทช. ได้รวบรวม ณ วันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา มีการระงับซิมที่ไม่ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ไปแล้วกว่า 741,657 เลขหมาย ในการนี้ กสทช. ได้กำชับให้ผู้ให้บริการทุกค่าย เร่งประชาสัมพันธ์และติดตามผู้ถือครองซิมทั้งสองกลุ่ม มายืนยันตัวตนภายในกำหนดเวลา นอกจากนี้ คณะยังได้ดำเนินการตรวจสอบและให้คำแนะนำถึงมาตรการป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอื่นๆ อีกด้วย
ในส่วนการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ในเรื่องนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กสทช. ได้ร่วมกันหามาตรการควบคุมกำกับตู้จำหน่ายซิม เพราะเป็นช่องทางให้แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ใช้ในการหลอกลวงคนไทยและต่างชาติ มีประชาชนตกเป็นเหยื่อ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งการยืนยันตัวตนจากบัตรประชาชน ตามศูนย์บริการต่างๆจะไม่มีปัญหาเพราะมีเครื่องอ่านบัตรประจำตัวประชาชน แต่ก็มีความกังวลในส่วนของตู้ขายซิมทั่วไปที่ยังไม่มีระบบตรวจที่ทันสมัยพอ แต่ก็ได้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในตรวจบัตรประจำตัวประชาชนให้ตรงกับอัตลักษณ์ของตัวตน ก่อนที่จะจำหน่ายซิมมือถือออกไป
พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวถึงเรื่องการถอนการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ออกจากประกาศมัสต์แฮฟ ที่กำหนดให้ถ่ายทอดรายการกีฬา 7 ประเภทคือ ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ ,เอเชี่ยนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และฟุตบอลโลก ให้ประชาชนรับชมฟรีทั่วประเทศ ด้วยว่า แฟนบอลชาวไทยจะยังได้รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเหมือนเดิม หากมีภาคเอกชนซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาบริหารจัดการเอง เนื่องจาก กสทช.มองว่า ฟุตบอลโลกแม้จะเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป แต่ไม่มีนักกีฬาไทยลงแข่งขัน การให้ภาคเอกชนเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และจะได้ไม่ต้องมารอลุ้นว่าจะมีการถ่ายทอดสดหรือไม่เหมือนกับฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาที่กว่าจะซื้อลิขสิทธิ์ได้ก็ใกล้วันแข่งขันซึ่งการเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกจะช่วยให้เอกชนสามารถใช้กลไกลทางการตลาดบริหารจัดการได้ดีกว่า.-513-สำนักข่าวไทย