ผ่านงบ “ดีอีเอส” หลังปรับลด 72 ล้าน

รัฐสภา 21 มี.ค.-สภาฯ เห็นชอบงบ “ดีอีเอส” หลังปรับลด 72 ล้าน “ปกรณ์วุฒิ” ซัดเดือด “ศูนย์ต้านข่าวปลอม” ไม่ควรได้แม้แต่บาทเดียว เหตุเป็นเครื่องมือรัฐปกปิดความจริง “ณัฐพล” บอกเดชะบุญกรมอุตุฯ ตัดงบตัวเองก่อน หลังของบซื้อเครื่องวัดระยะฝุ่น แต่ไม่รู้ไทยมีแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2  ที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดย วันนี้เป็นวันที่ 2 ได้พิจารณามาตรา 16 งบประมาณกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งกรรมาธิการเสียงข้างมาก ปรับลดงบประมาณ 72 ล้านบาท

นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล อภิปรายขอปรับลด ว่า กรมอุตุนิยมวิทยาถนัดเรื่องลมฟ้า แต่เรื่องราคาไม่แม่นเท่าไร โดยงบประมาณปีนี้ ในส่วนกรมอุตุนิยมวิทยาถูกปรับลด 19 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดของโครงการที่เกี่ยวกับ  PM 2.5 ตามเอกสารกรมอุตุนิยมวิทยาตั้งโครงการระบบตรวจวัดชั้นบรรยากาศใกล้ผิวโลกและวัดฝุ่นละออง PM 2.5 จำนวน 1 ระบบ โดยมีการตั้งเป็นงบผูกพันในปี 68 ด้วย รวมแล้วระบบนี้จะมีมูลค่า 127,223,000 บาท


นายณัฐพล โชว์ภาพดอยอินทนนท์ พร้อมระบุว่า ในช่วงเช้าที่อุณหภูมิพื้นผิวลดน้อยลง ชั้นบรรยากาศจะถูกกดลงเหมือนฝาชี ภายใต้ชั้นบรรยากาศคือฝุ่นละอองทั้งหมด และในช่วงบ่ายที่อุณหภูมิพื้นผิวเพิ่มสูงขึ้น ชั้นบรรยากาศก็จะยกตัวขึ้น แต่ความหนาแน่นของฝุ่นยังเท่าเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมตั้งคำถามว่าเครื่อง Lidar PBL ซึ่งเป็นเครื่องวัดระยะและประเมินฝุ่นที่มีประโยชน์ ดูไม่แพง แต่ตัดงบทำไม เพราะเครื่องดังกล่าวเป็นเครื่องที่ยิงเลเซอร์ขึ้นฟ้าก็จะหาความหนาแน่นของฝุ่นได้

“นอกจากนี้ยังพบความผิดปกติของงบประมาณในโครงการ ยกตัวอย่างใบเสนอราคาซื้อเครื่อง  Lidar PBL จำนวน 2 เครื่อง ราคาเครื่องละ 18 ล้านบาท แต่กรมอุตุนิยมวิทยากลับไม่รู้ว่า ไทยเคยมีเครื่องนี้แล้วและซื้อมาในราคาเพียง 5,000,000 บาท ทั้งนี้บริษัทซัพพลายเออร์เสนอค่าซ่อม 2,000,000 บาท แต่เครื่องนี้ถูกทิ้งไว้เฉยเฉย และปัจจุบันมีนักวิทยาศาสตร์ไทยผลิตเครื่องนี้ได้ โดยมีมูลค่าไม่เกิน 1,000,000บาท” นายณัฐพล กล่าว

นายณัฐพล กล่าวว่า เป็นเดชะบุญที่กรมอุตุนิยมวิทยาตัดงบประมาณโครงการตนเอง ส่วนตัวเห็นด้วย เพราะแม้จะเป็นโครงการสำคัญแต่มีราคาแพงเกินจริง จึงอยากฝากกรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่ข้องเกี่ยวกับมลพิษ PM 2.5 หากจะตั้งงบเพื่อซื้อเครื่องลักษณะนี้ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ NARIT สามารถผลิตได้เอง มีต้นทุนไม่ถึงล้านบาท และมาพร้อมกับโมเดลการวิเคราะห์เก็บข้อมูลที่นักวิจัยไทยเขียนเองทั้งหมด


น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ จะมีสายด่วน 1441 ที่เอาไว้แจ้งมิจฉาชีพ แต่ก็มีสายด่วนของหน่วยงานอื่น เช่น 1599 เราไม่สายด่วนเยอะมาก แต่ประชาชนจำไม่ได้ นอกจากนี้ ยังพบปัญหามิจฉาชีพเข้ามาร้องเรียนมิจฉาชีพ ทำให้ประชาชนงงว่าหากร้องเรียนไปแล้ว จะเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ตอนนี้ตำรวจทำงานไม่ทันมิจฉาชีพ ไลน์แอดที่ยิงไป 4-6 อัน มิจฉาชีพหมดเลย สรุปอันไหนจริงกันแน่ พอไปถามเจ้าหน้าที่ก็โยนงานข้ามกันไปมาว่าสายด่วนไหนจริง สายด่วนไหนปลอม

น.ส.ศศินันท์ เปิดคลิปพีอาร์ของกระทรวงดีอีเอส ที่รณรงค์ให้ประชาชนรู้ทันมิจฉาชีพ ในหัวข้อ “มงคลมาโอนเงินให้เปี๊ยกหน่อย” ตนขอเสนอปรับลดงบ เนื่องจากอยากให้กระทรวงดีอีเอส ทำงานที่ควรจะทำ มองว่าหากมัดรวมงบแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ได้ จะประหยัดงบไปได้เยอะ

ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่า ส่วนตัวสงสัยมานานว่าเหตุใดศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมเลือกตรวจสอบข่าวจากหน่วยงานราชการเท่านั้น   ทั้งนี้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมยังแบ่งกลุ่มข่าวที่ไม่สามารถเผยแพร่ได้ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.หน่วยงานไม่สามารถชี้แจงได้ 2.หน่วยงานปฏิเสธการตอบกลับ 3. หน่วยงานไม่ประสงค์เผยแพร่

“ยกตัวอย่างข่าวที่ถูกปฏิเสธการตอบกลับ “ ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือน ก.ย.นี้ เตรียมรับเงินสูงสุด 1,900 บาท สามารถดกดเป็นเงินสดได้” ซึ่งจากการตรวจสอบกับกลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง พบว่าเพื่อความชัดเจนและข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด รบกวนสอบถามทางกระทรวงการคลัง เนื่องจากดูแลเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยตรง สุดท้ายศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมปิดเคส สมชื่อกับศูนย์ประสานงานและแก้ปัญหาข่าวปลอม ไม่ติดตามหรือทวงถามอะไรทั้งนั้น” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในกลุ่มข่าวที่ไม่ประสงค์เผยแพร่ยังระบุเหตุผลไว้ชัดเจน โดยเฉพาะข่าว ครม. อนุมัติแผนบริหารหนี้สาธารณะปี 2567 ก่อหนี้ใหม่ 1.94 ล้านบาท หรือข่าวทำเนียบรัฐบาลใช้งบประมาณในการจัดซื้อยางรถยนต์แปดเส้น  3.4 ล้านบาท จากการตรวจสอบกับกรมประชาสัมพันธ์ชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข่าวจริง  แต่ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล ซึ่งตลอด 4 ปี 5 เดือน การส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานราชการของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการตรวจสอบแต่เป็นการขออนุญาตเผยแพร่ข้อมูล  

“ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมไม่เคยมีความเป็นกลาง ไม่มีความเป็นอิสระ และเป็นแค่เครื่องมือของรัฐในการผูกขาดความจริงแบบที่รัฐอยากให้ประชาชนรู้ และปกปิดความจริงที่รัฐไม่อยากให้ประชาชนเห็นเท่านั้น โครงการเช่นนี้ไม่ควรได้รับงบประมาณจากภาษีประชาชนแม้แต่บาทเดียว ภายหลังสมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง ท้ายที่สุดที่ประชุมเห็นชอบตัดงบกระทรวงดีอีเอส 72 ล้านบาท ตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ