เปิดฉากประชุม ครม.สัญจรที่พะเยา

จ.พะเยา 19 มี.ค.-“เศรษฐา” นำทีม ครม.สวมเสื้อฝ้ายย้อมครั่งสีชมพูเข้มอมม่วงลายดอกสารภีประชุม ครม.สัญจรพะเยา เตรียมพิจารณาโครงการและยุทธศาสตร์การลงทุน 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 11 โครงการ วงเงิน 90,558 ล้านบาท


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ(ครม.สัญจร) ที่หอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีสวมเสื้อผ้าฝ้ายพื้นเมืองสีชมพูเข้มอมม่วง ย้อมสีธรรมชาติจากครั่ง ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดพะเยา แต่งด้วยลายดอกสารภี ต้นไม้ประจำจังหวัดพะเยา

นายกรัฐมนตรีเดิมชมบูธของหน่วยงานต่าง ๆ ที่นำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาจัดแสดง อาทิ ผ้าพื้นเมือง ผลผลิตทางการเกษตร เมล็ดกาแฟ ขณะที่ช่วงหนึ่งระหว่างการเยี่ยมชมบูธของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าฯ ททท.รายงานความคืบหน้าการเปิดสำนักงานททท.จังหวัดพะเยา ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับว่า ขอให้เปิดสำนักงานฯให้ทันก่อนฤดูหนาว ซึ่งจะสอดรับกับฤดูการท่องเที่ยวของภาคเหนือ


นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ว่า เมื่อช่วงเช้าได้ไปใส่บาตร ไม่ได้ขอพรอะไร พระให้พรมา วันนี้บรรยากาศดี เชื่อว่าฝุ่นน่าจะดีขึ้นด้วย

สำหรับวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกพื้นที่อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 2/2567 ที่จะจัดขึ้นที่ จ.พะเยา ระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม 2567 มีวาระที่น่าสนใจอาทิ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ.กลุ่มภาคเหนือ เตรียมเสนอโครงการและยุทธศาสตร์การลงทุนใน 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา แพร่ และ น่าน เป็นวาระเพื่อการพิจารณา 11 โครงการ วงเงิน 90,558 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการข้อเสนอด้านการเกษตร 163 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการเมืองศูนย์กลางนวัตกรรมเกษตรปลอดภัยและอุตสาหกรรมอาหารอนาคตมูลค่าสูงล้านนาตะวันออก 2.โครงการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนต้นพันธุ์ลำไย เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ปลูกลำไยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 3.โครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเศรษฐกิจการเกษตรสีเขียวมูลค่าสูง

 4.โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตพืชทางเลือกตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่ โครงการด้านการค้า การลงทุน เศรษฐกิจชายแดน 89,868 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.ผลักดันเชิงนโยบายในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor : NEC ให้ครอบคลุมจังหวัดภายในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 2.เพิ่มศักยภาพการพัฒนาพื้นที่และเสริมสร้างโอกาสในการแข่งขันของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 โดยการเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมขนส่งทางรางโครงข่ายล้านนาตะวันออก 3.โครงการพัฒนาด่านการค้าชายแดนภายในกลุ่มจังหวัด 4.โครงการการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวอุตสาหกรรม และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 5.โครงการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 1202 ตอนควบคุม 0200 ตอน สันต้นแหน-ป่าแดด ระหว่าง กม. 404600-กม. 421100 ตำบลโรงช้าง อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย


สำหรับข้อเสนอโครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1ปี (Quick Win) จำนวน 50 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy tourism เพื่อยกระดับอาหารพื้นเมืองสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 20 ล้านบาท 2.โครงการ A Cup to Village เพิ่มขีดความสามารถการเป็นนวัตกรรมด้านชาและกาแฟ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน 15 ล้านบาท และ 3.โครงการยกระดับสินค้าและบริการด้านสุขภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 อีก 15 ล้านบาท

จังหวัดพะเยา เสนอโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ 26 ล้านบาท โครงการยกระดับการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรมูลค่าสูงตามแนวทางตลาดนำนวัตกรรมเสริมรายได้ 23 ล้านบาท รวมมูลค่า 2 โครงการมากกว่า 50 ล้านบาท และโครงการสำคัญตามความต้องการกรอ.จำนวน 30 โครงการ รวมงบประมาณ 10,696 ล้านบาท อาทิ การผลักดันให้เกิดท่าอากาศยานพะเยา ซึ่งในส่วนนี้ได้เริ่มมีการศึกษาในเชิงพื้นที่เบื้องต้นของกรมท่าอากาศยานแล้ว โดยพื้นที่ที่มีความเหมาะสม คือ อำเภอดอกคำใต้ พื้นที่ราว 2,800 ไร่

จังหวัดน่าน เสนอโครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและยกระดับการท่องเที่ยวน่านสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง 19 ล้านบาท โครงการน่านเมืองเก่ามีชีวิต ไร้มลพิษอย่างสร้างสรรค์ 18 ล้านบาท โครงการเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง 15 ล้านบาท และโครงการสำคัญตามความต้องการ กรอ.จำนวน 3 โครงการ 11,736 ล้านบาท จังหวัดแพร่ เสนอโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองเก่าแพร่ 45 ล้านบาท โครงการยกระดับการผลิตภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า 5 ล้านบาท และโครงการสำคัญตามความต้องการ กรอ.รวมทั้งสิ้น 17 โครงการ งบประมาณ 177 ล้านบาท จังหวัดเชียงราย เสนอโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เชียงรายเมืองสุขภาพ 50 ล้านบาท ขณะที่โครงการสำคัญที่เป็นความต้องการของ กรอ.มีจำนวน 7 โครงการ งบประมาณ 2,278 ล้านบาท ครอบคลุมโครงการพัฒนาท่องเที่ยว โครงการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการค้าการลงทุนเศรษฐกิจชายแดน.-316.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง