หอสมุดแห่งชาติ 7 ส.ค.-รมว.วัฒนธรรม เผยสหรัฐฯส่งสัญญาณที่ดี ต่อการติดตามทวงคืน ทับหลัง 2 ชิ้น ที่ปราสาทหนองหงส์และปราสาทเขาโล้น โบราณวัตถุชิ้นสำคัญกลับไทย พร้อมแต่งตั้งผู้แทนไทยเข้าเจรจา มั่นใจในหลักฐาน ทั้งภาพถ่าย และข้อมูลแน่น
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ครั้งที่ 2 ที่ หอสมุดแห่งชาติ
รมว.วัฒนธรรม แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านวิชาการ 2 ชุด เพื่อพิจารณาโบราณวัตถุ และเพื่อติดตามโบราณวัตถุของไทยกลับคืนสู่ประเทศ โดยมีนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธาน และมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านโบราณคดี ศิลปวัตถุ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ และนักวิชาการอิสระ ร่วมเป็นอนุกรรมการ ส่วนชุดที่2 ดำเนินการด้านกฎหมาย มี นายเจษฎ์ โทณะวณิก ดูเรื่องกฏหมายระหว่างประเทศ กฎหมายไทย แนวทางด้านกฎหมายที่จะนำโบราณวัตถุกลับสู่ประเทศ ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กฤษฏีกา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเพิ่ม ในการทวงคืนโบราณวัตถุเพิ่ม หลังจากหารือไปแล้ว 2 รายการ คือทับหลังรูปพระยมทรงกระบือ ปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และ ทับหลังรูปพระอินทร์ประทับเหนือหน้าเกียรติมุข จากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ซึ่งขณะนี้จัดแสดงอยู่ที่ เดอะ เอเชียน อาร์ต มิวเซียม ออฟ ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกรมศิลปากร ได้จัดทำเอกสารประวัติอย่างละเอียดของแต่ละชิ้น พร้อมภาพถ่าย ผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปยัง สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐฯ ซึ่งทางการสหรัฐฯ อยู่ระหว่างติดตาม ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีและชัดเจนที่เห็นเป็นรูปธรรมในการติดตามโบราณวัตถุในครั้งนี้
โดยโบราณวัตถุที่ต้องติดตามเพิ่มเติม อีก2 รายการ คือ ทับหลังพระอินทร์ประทับเหนือหน้ากาล ที่ปราสาทตาเมินทม พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และเสาติดกับผนัง จากปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ จัดแสดงอยู่ที่เดอะ เอเชียน อาร์ต มิวเซียม ออฟ ซานฟรานซิสโก โดยส่งรายละเอียดไปยังสหรัฐฯเพิ่มเติมอีก เนื่องจากมีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าอยู่ในเมืองไทย และสามารถพิสูจน์ได้ทั้งจากภาพถ่าย และข้อมูลด้านวิชาการ
นอกจากนี้ยังมีข่าวดี คือ กรมศิลป์ได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่า สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ประสานของความร่วมมือ ให้กรมศิลปากรให้ตรวจสอบรายการโบราณวัตถุ ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ศิลปะ โฮโนลูลู มิวเซียม ออฟอาร์ท รัฐฮาวาย จำนวน 17 รายการ โดยที่ประชุมมีมติให้ส่งคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งใหม่ ไปตรวจสอบว่าเป็นของไทยหรือไม่ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบโดยกรมศิลปากร พบว่า ใน17ชิ้น มี13 ชิ้น คาดว่าเป็นของไทย อาทิ พระพุทธรูปปางลีลา สมัยสุโขทัย พระพุทธรูปปางมารวิชัย และกระดึงสัมฤทธิ์ยุคโบราณ ก่อนประวัติศาสตร์ ราว 2,000 ปี
ที่ประชุมยังมีมติ ติดตามทวงคืน โบราณวัตถุนอกเหนือจาก 133 ชิ้นที่ตรวจสอบพบ โดยขอให้กระทรวงการต่างประเทศ และสถานกงสุล ช่วยสำรวจหากพบเพิ่มเติมและนำส่งข้อมูลมายังคณะกรรมการติดตามทวงคืนโบราณวัตถุฯ พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเยี่ยมชมในพิพิธภัณฑ์ต่างๆในต่างประเทศ ให้ส่งเบาะแส มายังกรมศิลปากร และอนาคตจะเปิดเว็ปไซต์ ในการแจ้งข้อมูล รวมถึงที่ประชุมมีมติ ต้องการเข้าเป็นสมาชิก UNESCO Convention 1970 หรือความร่วมมือระหว่างสมาชิกในการติดตามโบราณวัตถุส่งคืนเจ้าของ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา นำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ พร้อมทั้ง แต่งตั้งผู้แทน ภัทราธร จิรประวัติ นักโบราณคดี และเป็นอาจารย์อยู่ที่สหรัฐอเมริกา เ ป็นผู้แทนเจรจา ในกรณีหากมีการพบโบราณวัตถุ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศในการติดตามโบราณวัตถุ อย่างไรก็ตาม การติดตามทวงคืนโบราณวัตถุกลับไทย ถือเป็นสัญญาณที่ดี ตอนนี้กำลังรรออสัญญาณจากทางสหรัฐฯ ที่ถือว่าดำเนินการอย่างเต็มที่ และเป็นความร่วมมือที่ดี
ด้าน นายทนงศักดิ์ หาญหงส์ คณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับสู่ประเทศไทย กล่าวว่า ขั้นตอนการติดตามโบราณวัตถุ 2 รายการ คือ ทับหลังจาก ปราสาทหนองหงส์ และปราสาทเขาโล้น ทางการสหรัฐฯอยู่ระหว่างกระบวนการเข้ายึดคืน หากพิพิธภัณฑ์ไม่สามารถแจกแจงที่มาของโบราณวัตถุทั้ง2 ชิ้นได้ เพราะประเทศไทยมีหลักฐานชัดเจน .-สำนักข่าวไทย