นครเมลเบิร์น 5 มี.ค.- โฆษกรัฐบาลวอนยุติด้อยค่านายกฯ หลังชื่นชมสิงคโปร์ ยื่นข้อเสนอมัด “เทย์เลอร์ สวิฟต์” เปิดคอนเสิร์ต 6 รอบโดยไม่เปิดการแสดงในประเทศอื่นในอาเซียน ย้ำชื่นชมสิงคโปร์ดีลแบบนี้เป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ ไม่คิดตำหนิหรืออิจฉา
นายชัย วัชรงค์โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อกรณีที่เป็นข้อวิพากวิจารณ์ในสังคม กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงการแสดงคอนเสิร์ต 6 รอบที่สิงคโปร์ ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) โดยไม่เปิดการแสดงในประเทศอื่นในอาเซียนนั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้ใกล้ชิด ซึ่งเข้าใจในความเป็นตัวตนของนายกฯ ขอยืนยันว่านายกฯ หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยด้วยความยกย่องชื่นชมสิงคโปร์ การหยิบยื่นข้อเสนอของสิงคโปร์เป็นแนวทางการทำงานที่กล้าคิดกล้าทำ สามารถทำให้ทีมงานของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ยอมรับที่จะไปจัดการแสดงที่สิงค์โปร์เพียงประเทศเดียวในภูมิภาค ทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศ ทั้งน้ำเสียงและความหมายที่นายกฯ พูดถึงเรื่องนี้ ไม่มีจุดไหนเลยที่จะสื่อไปในทางที่ตำหนิหรือแสดงความอิจฉาสิงคโปร์
นายชัย ระบุว่า ความหมายของนายกฯ มีนัยยะตรงข้าม นายกฯแสดงความหมายเป็นนัยๆว่า ประเทศที่ต้องการโปรโมทการท่องเที่ยวของประเทศ ควรจะต้องดูกลยุทธ์ของสิงค์โปร์เอาไว้เป็นแบบอย่าง ทั้งนี้ทางฝ่ายรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ก็ได้ออกมาเฉลยความจริงแล้ว ว่ามีดีลที่ตกลงกับทีมงานของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ด้วยข้อเสนอผลตอบแทนและเงื่อนไขตรงตามที่เป็นข่าว สอดคล้องกับคำกล่าวของนายกฯ เศรษฐาว่า ดีลดังกล่าวเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ ไม่มีเหตุผลใดที่สิงคโปร์จะต้องรู้สึกละอายว่าไม่น่าทำ ยิ่งไปกว่านั้นสิงคโปร์ยังอธิบายเพิ่ม ว่านอกเหนือจากเรื่องเงินแล้ว สิงคโปร์ยังมีความพร้อมด้านอื่นๆ เป็นปัจจัยประกอบด้วยที่ทำให้ทางฝ่ายศิลปินหญิงทำความตกลงด้วย
“ผมรู้สึกเสียใจ และขอให้กลุ่มคนที่จ้องจะจับผิด และด้อยค่านายกฯ เศรษฐา โปรดหยุดเถอะ ไม่มีเหตผลอะไร ที่เราจะมาตามด้อยค่าผู้นำประเทศเช่นนี้ รวมทั้งการกระทำเหล่านี้บางครั้งอาจจะเลยเถิดให้เกิดความหมางใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศโดยไม่จำเป็นได้ เรามาร่วมมือกันทำการเมืองแบบใสสะอาดดีกว่าไหม มาร่วมมือกันก้าวข้ามผ่านความท้าทายในประเทศไปด้วยนะครับ” นายชัย กล่าว
พร้อมกับติดแฮชแทค #คนคิดลบมักสร้างแต่ความแตกแยก #บ้านเมืองนี้คนเก่งคนดีถูกทำลายไปแล้วเท่าไร #แข่งกันทำงานเพื่อประชาชน.314 .- สำนักข่าวไทย