ทำเนียบ 4 มี.ค.-“รัดเกล้า” ย้ำรัฐบาลลุยส่งเสริม ฮาลาลไทย สู่ ASEAN Halal Hub ภายในปี 2571 ตั้งเป้าภายใน 5 ปี จ้างงานเพิ่ม 1 แสนคนต่อปี จัดงาน Kick off มีนาคม 2567 นี้
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยเป้าหมายที่จะยกกระดับอุตสาหกรรมฮาลาลไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมฮาลาลในภูมิภาค หรือ ASEAN Halal Hub ภายในปี 2571 นั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหรรม ได้วางแนวทางการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาล ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมฮาลาลในภูมิภาค โดยการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทยให้มีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เพื่อสร้างการรับรู้และการยอมรับในผลิตภัณฑ์ฮาลาลของประเทศไทยผ่านการเชื่อมโยงภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลให้ยังคงมีอัตลักษณ์ความเป็นไทย เชื่อมโยงวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นเพื่อเป็น กลไกขับเคลื่อนซอฟพาวเวอร์ของไทยไปในตัว ควบคู่กับการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ กระจายรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะนำไปสู้การลดความเหลื่อมล้ำ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็ง และความมั่นคงให้กับประเทศอย่างยั่งยืน
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมยังเตรียมลดข้อจำกัดและแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค รวมทั้งบูรณาการทำงานหน่วยงานต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม ฮาลาล โดยผลิตภัณฑ์และบริการ อาหารฮาลาล เป้าหมายในระยะแรกที่ถูกต้องตามบทบัญญัติศาสนาอิสลามประกอบด้วยอาหารฮาลาล เช่น เนื้อสัตว์อาหารทะเลอาหารแปรรูป อาหารพร้อมรับประทาน อาหารฮาลาลโดยธรรมชาติ อาหารมุสลิมรุ่นใหม่เช่น Snack bar ,แฟชั่นฮาลาล เช่น สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและเครื่องหนัง ,ยาสมุนไพรและเครื่องสำอางฮาลาล , โกโก้ฮาลาล สินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง , บริการและท่องเที่ยวฮาลาล
“ในระยะยาว เราตั้งเป้าว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 หรือ 55,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีในขณะเดียวกันแรงงานในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจำนวน 100,000 คนต่อปี ต่อเนื่องจนถึงปี 2571 และในแผนระยะสั้นนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมมีแผนที่จะจัดงานเปิดตัว Kick off การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย วางแผนไว้ว่าจะจัดในช่วงเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งจะมีการเชิญหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เอกอัครราชทูตหรือผู้แทนทางการทูตของประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพเข้าร่วมงานด้วย ขอให้ประชาชนให้กำลังใจคนทำงานและจับตาดูงานที่สำคัญงานนี้” นางรัดเกล้า กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย