ไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีไม่กระทบคุณภาพอากาศ – เร่งหาสาเหตุ

พระนครศรีอยุธยา 1 มี.ค. – เหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีผิดกฎหมาย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ยันไม่พบสารเคมีปนเปื้อนในอากาศ เร่งหาสาเหตุไฟไหม้


ย้อนไปดูเหตุการณ์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (29 ก.พ.) ไฟลุกไหม้ช่วงประมาณ 22.00 น. ต้นเพลิงมาจากรถบรรทุกกากสารเคมี ที่จอดทิ้งไว้โกดัง และมีเสียงระเบิดตามมา ก่อนไฟจะลุกลามอย่างรวดเร็ว เพราะภายในโกดังมีขยะอุตสาหกรรมจำนวนมาก ทั้งชิ้นส่วนพลาสติกแข็ง น้ำมันล้างชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ น้ำมันล้างเครื่องอุตสาหกรรม

เจ้าหน้าที่ได้ระดมรถดับเพลิงจากท้องที่ใกล้เคียงหลายสิบคันเข้าช่วย และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะนอกจากเปลวเพลิงที่ลุกไหม้รุนแรงแล้ว ยังมีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากโกดังตลอดเวลา ขณะเกิดเหตุ ทางเทศบาลฯ ได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ปิดบ้านเรือนให้มิดชิด ใส่หน้ากากอนามัย และให้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง เป็นพิเศษ


ด้านผู้ว่าราชการจังหวัด นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ลงพื้นที่ทันที ซึ่งโกดังนี้เป็นที่เก็บสารเคมีผิดกฎหมาย ที่เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมตรวจยึดไว้เป็นของกลางมีทั้งหมด 5 โกดัง มีทั้งสารเคมีที่เป็นของเหลว น้ำมัน และขยะอุตสาหกรรม รวมกว่า 4,000 ตัน ตอนที่เกิดเหตุ ไม่มีคนเฝ้าโกดัง ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ตรงข้ามโกดัง เล่าว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสามครั้ง เมื่อวิ่งไปดูก็เห็นว่ามีไฟไหม้รถบรรทุก 10 ล้อ ที่จอดอยู่ในโกดัง และมีกลุ่มควันสีดำลอยออกมาไกลประมาณ 200 เมตร ตอนนั้นได้กลิ่นของสารเคมี มีอาการแสบจมูก แต่ยังไม่ถึงขั้นแสบตา

เจ้าหน้าที่ระดมฉีดโฟมกว่า 6,000 ลิตร ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ยังคงมีกลุ่มควันเล็กน้อย พบโกดังเสียหาย 2 โกดัง

จากการตรวจสอบโกดังแห่งนี้มีการติดป้ายประกาศจากเทศบาล ให้หยุดดำเนินการและงดใช้สถานที่ ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เพราะไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการ โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดสารเคมีไว้เป็นของกลาง มีทั้งสารเคมีที่เป็นกรดเข้มข้น และสารเคมีอื่นๆ รวมประมาณ 4,000 ตัน และยังมีสายยางเก่าที่เป็นวัตถุไวไฟ ตอนนี้ คดีความอยู่ระหว่างดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่งมีผู้ต้องหาหลายรายที่ต้องมีส่วนร่วมในการชดใช้ค่าเสียหายในการทำลายสารเคมีเหล่านี้ และอยู่ระหว่างรองบประมาณในการทำลายสารเคมี ซึ่งตั้งงบไว้ 6.9 ล้านบาท และได้งบในปีนี้ แต่มาเกิดเหตุเพลิงไหม้เสียก่อน เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริง


ส่วนที่เป็นห่วงเรื่องของมลพิษ ล่าสุด เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบโกดัง ไม่พบสารเคมีปนเปื้อนอยู่ในอากาศ จึงไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน ไม่ต้องมีคำสั่งปิดพื้นที่ หรือสั่งอพยพออกนอกพื้นที่ ขณะที่ ผู้ว่าฯจังหวัด บอกว่าจะเร่งจัดการสารเคมีผิดกฎหมายเหล่านี้ให้เรียบร้อยภายใน 6 เดือน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น