“รองฯ แต้ม” ชี้ “เต้ย บางโพ” จัดเป็นผู้ป่วยโรคจิต-ฆาตกรต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 28 ก.พ. – “พล.ต.ต.วิชัย” หรือ มือปราบหูดำ ระบุ “เต้ย บางโพ” จัดเป็นผู้ป่วยโรคจิตและฆาตกรต่อเนื่อง เพราะดูจากพฤติการณ์ ลักษณะการก่อเหตุ เกิน 3 ครั้ง เหยื่อเกิน 3 ราย และข้ออ้าง “ไม่สามารถทนกลิ่นเด็กนักเรียนได้” เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี


พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตนายตำรวจมือปราบชื่อดัง เจ้าของฉายามือปราบหูดำ ระบุว่ากรณีของนายเต้ย บางโพ ก่อเหตุขืนใจนักเรียนต่อเนื่อง อ้างทนกลิ่นนักเรียนไม่ไหว ถือว่าเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง และเข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง เพราะผู้จัดการก่อเหตุเป็นลักษณะซ้ำ ๆ เหมือนเดิม แรงจูงใจรวมถึงกลุ่มเหยื่อเป็นกลุ่มคนเดิม ๆ อย่างกรณีของนายเต้ย เหยื่อเป็นเด็กนักเรียนหญิง ซึ่งถือเป็นผู้เปราะบาง ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย หรือบางรายอาจช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย จึงตกเป็นเหยื่อคนร้ายซึ่งมีพฤติการณ์เป็นโรคจิตและเป็นฆาตกรต่อเนื่อง

หลายคนเข้าใจคำว่าฆาตกรต่อเนื่องหมายถึงคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าเหยื่อติดต่อกันหลายศพ แต่จริงๆ แล้วคำว่าฆาตกรต่อเนื่องหมายถึงกลุ่มคนที่ก่อเหตุอาชญากรรมในลักษณะเดิม ๆ แรงจูงใจซ้ำ ๆ เหยื่อเป็นกลุ่มเดิม ๆ เช่น เด็ก คนพิการ คนชรา เป็นต้น คดีของนายเต้ย บางโพ ไม่แตกต่างกับคดีคนร้ายก่อเหตุข่มใจหญิงสูงอายุ ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ที่เกิดขึ้นในต่างจังหวัด


คนร้ายมีแรงจูงใจ รายการก่อเหตุ 2-3 ข้อ ดังนี้ 1.ความโกรธ ความเกลียด หรือผลกระทบในวัยเด็ก เช่น บางคนถูกกระทำชำเรา หรือถูกทำร้ายทุบตีในวัยเด็ก ก็จะมีความโกรธแค้น ฝังใจ จึงมาลงมือกระทำกับเหยื่อ ซึ่งเป็นเด็กเพราะป้องกันตัวเองไม่ได้ เช่นเดียวกับตนเองในวัยเด็กที่ไม่สามารถตอบโต้ ผู้กระทำได้ 2.ผลประโยชน์ เช่น บางคนก่อเหตุข่มขืน แล้วได้เงินจากการข่มขู่ รีดไถอยู่เหยื่อรวมถึง ใช้หากินในอนาคต เช่น ข่มขืนแล้วถ่ายรูปแบล็คเมล์
3.สนองความต้องการส่วนตัว อย่างนายเต้ย ที่อ้างว่าทนกลิ่นเด็กไม่ไหว จนก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนนั้น หากไม่พบการก่อเหตุในลักษณะแบล็คเมล์เรียกทรัพย์สิน ก็ถือว่าเข้าข่ายสนองความต้องการส่วนตัว

พล.ต.ต.วิชัย ยังระบุอีกว่า การป้องกันเหตุเป็นเรื่องยาก เพราะกลุ่มคนพวกนี้ไม่มีอาการให้เราเห็น หรือไม่แสดงอาการภายนอก ให้คนทั่วไปรู้เห็น แต่มันฝังอยู่ในจิตใจของเขา หรือที่เรียกกันว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ ดังนั้นวิธีเดียว คือพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงครูบาอาจารย์ต้องสอนให้เด็กระมัดระวังตนเอง ไม่เชื่อ ใครง่าย ๆ เช่น ต้องสอนให้บุตรหลานไม่กลับบ้านค่ำมืด หรือกลับบ้านเพียงลำพัง และเมื่อกลับถึงบ้านแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มคนที่พักในคอนโดมีเนียมหรืออพาร์ทเมนท์ ต้องไม่เปิดประตูรับคนแปลกหน้า.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น